วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ยิงรถนักเรียนบ้านคา

ยิงถล่มรถนักเรียนโรงเรียนบ้านคาวิทยา กิ่ง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี
วันที่ 4 มิถุนายน 2545 เป็นเหตุให้นักเรียนเสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 12 คน
เหตุการณ์ยิงรถนักเรียนโรงเรียนบ้านคา เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุเป็นปัญหาของโชเฟอร์ โดยคนร้ายมาดักรอก่อนยิงถล่มเข้าในรถที่มีนักเรียนเต็มคัน!!!
ตำรวจ-ทหารจับกุม นายจอบิ หรือซอบิ ชาวกะเหรี่ยง แต่ชาวบ้านไม่เชื่อว่าเป็นฆาตกรตัวจริง ถึงขนาดให้การช่วยเหลือบุคคลที่ทางการระบุว่าเป็นฆาตกร ฆ่าลูกหลานของตนด้วยซ้ำ สุดท้ายศาลชั้นต้นยกฟ้อง คดีอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ของอัยการ

เหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มรถนักเรียนจนเกิดการสูญเสียทั้งเลือดและน้ำตา ซึ่งเป็นที่จดจำและค้างคามาจนทุกวันนี้คือคดียิงถล่มรถนักเรียนโรงเรียนบ้านคาวิทยา บนถนนสายบ้านโป่งเจ็ด-ร่องเจริญ กิ่ง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2545

วันนั้น นายทองมอญ เข็มทอง ขับรถพานักเรียนเต็มคันช่วงที่ชะลอความเร็วขึ้นเนินเขา พบคนร้ายจำนวนหนึ่งออกมายืนขวางถนน แต่นายทองมอญเร่งความเร็วฝ่าออกไป ทำให้คนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงไล่หลัง ผลจากการนั้นมีนักเรียนเสียชีวิตถึง 3 ราย บาดเจ็บอีก 12 คน!!!

ทั้งตำรวจ-ทหารเข้ามาร่วมสะสางคดีนี้โดยเชื่อว่าสาเหตุมาจากปัญหาระหว่างนายทองมอญกับคนร้าย แต่นายทองมอญปฏิเสธ และไม่ค่อยให้ความร่วมมือใดๆ ไม่นานจากนั้นตำรวจ-ทหารเข้าจับกุมนายจอบิ หนุ่มกะเหรี่ยง โดยกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มโจรที่ก่อเหตุ

ทนายความของนายจอบิ ระบุว่า นายจอบิถูกทางการหลอกว่าหากสารภาพจะไม่ได้รับโทษรุนแรง และสามารถกลับไปอยู่กับลูกเมียได้เหมือนเดิม นายจอบิจึงสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และไปทำแผนฯ ตามคำสั่งของทางการที่คอยกำกับการแสดงตลอดเวลา จนเมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไรจึงให้การปฏิเสธ ในขณะที่ผู้ปกครองเด็กก็ไม่เชื่อว่า นายจอบิจะเกี่ยวข้อง เพราะรูปพรรณซึ่งเป็นคนตัวเตี้ยกว่าปกติ ในขณะที่คนร้ายนั้นพยานระบุว่ามีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนคนไทยทั่วๆ ไป

นอกจากนี้ นายจอบิยังมีพยานหลายปากยืนยันว่า ช่วงเกิดเหตุ อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งห่างออกไปหลายกิโล และการเดินทางจะใช้เวลานานหลายชั่วโมง เพราะต้องเดินฝ่าแนวเขามาด้วย
อย่างไรก็ตามอัยการมีคำสั่งฟ้องนายจอบิ และสู้คดียาวนานกว่า 1 ปี กระทั่งวันที่ 31 มีนาคม 2547 ศาลอ่านคำพิพากษายกฟ้อง ในวันที่ศาลยกฟ้องนั้นเกิดเรื่องราวไม่น่าเชื่อขึ้น เพราะผู้ปกครองเด็กที่เจ็บและตาย พากันมาให้ดอกไม้และปรบมือแสดงความยินดีกับนายจอบิด้วย!??

พร้อมกันนี้ก็ร้องเรียนให้กองปราบฯ เข้ามาสืบสวนคดีนี้ใหม่อีกรอบ เพื่อหาฆาตกรตัวจริงมาดำเนินคดีให้ได้ โดยพุ่งเป้าไปที่ลูกน้องของผู้มีอิทธิพลรายหนึ่ง ซึ่งมีปัญหาขัดแย้งกับ นายทองมอญ แต่กองปราบฯ เองก็ยังไม่สามารถสรุปสำนวนได้ เพราะพยานหลักฐานต่างๆ มันชุลมุนชุลเกไปหมดตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุใหม่ๆ แล้ว

สำหรับนายจอบิ หลังศาลยกฟ้องแต่อัยการยื่นอุทธรณ์ ตอนแรกถูกควบคุมไว้ที่ ตม. แต่ภายหลังย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ จ.ราชบุรี ระหว่างนั้นกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ และพยานบุคคลจำนวนมากระบุว่า นายจอบิเป็นคนไทย เกิดและอาศัยอยู่บริเวณบ้านบางกลอย ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จึงทำเรื่องขอสัญชาติไทย

แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า จนมีการฟ้องร้องนายอำเภอแก่งกระจาน เพื่อให้โอนย้ายชื่อ นายจอบิเข้าทะเบียนบ้านของญาติคนไทย แต่เรื่องราวของนายจอบิยังคาราคาซังอยู่ เช่นเดียวกับความคืบหน้าของคดียิงถล่มรถนักเรียนโรงเรียนบ้านคาวิทยา ก็ยังค้างอยู่ในสำนวน คนร้ายตัวจริงจึงยังลอยนวลอยู่จนถึงทุกวันนี้!??

ที่มา : คอลัมน์แฟ้มคดี. (2548). น.ส.พ.ข่าวสด. [Online]. avaliable:http://www.kanchanaburi.com/kannews/01896.html. [2552, พฤศจิกายน 9]
ศาลพิพากษายกฟ้อง
ศาลพิพากษายกฟ้อง "จอบิ" จำเลยยิงถล่มนักเรียนโรงเรียนบ้านคาวิทยา ระบุพยานโจทก์มีพิรุธหลายอย่าง จึงต้องยกประโยชน์ให้
ด้านเจ้าตัวเผยดีใจสุดที่ศาลยกฟ้อง ขณะที่ญาติของเด็กนักเรียนเหยื่อกระสุนปืนกว่า 50 คน ดีใจหลังฟังคำพิพากษา ระบุไม่เชื่อว่า จำเลยเป็นคนยิงลูกตั้งแต่แรกแล้ว จี้ตำรวจลากคนร้ายตัวจริงมาลงโทษ ผ่านไปกว่า 2 ปี สำหรับเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงถล่มรถรับส่งนักเรียนโรงเรียนบ้านคาวิทยา จนเป็นเหตุให้เด็กนักเรียนได้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว นายจอบิ ผู้ต้องหา ชาวกะเหรี่ยงส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดราชบุรี เพราะเชื่อว่า เขาและพวกเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ล่าสุดศาลมีคำพิพากษาตัดสินยกฟ้องผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแล้วเมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 31 มี.ค.2547 ที่ศาลจังหวัดราชบุรี
นายวิวุฒิ มณีนิล ผู้พิพากษา ได้อ่านคำพิพากษาคดีดำที่ อ.4933/45 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจอบิ จำเลยในคดีลอบยิงนักเรียนโรงเรียนบ้านคา ต.บ้านคา อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในข้อหาความผิดต่อชีวิต พระราชบัญญัติอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน และพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง
ทั้งนี้นายวิวุฒิ ได้อ่านคำพิพากษา โดยบรรยายฟ้องโจทก์ว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2545 นายจอบิ จำเลย กับพวกที่ยังหลบหนี ได้กระทำความผิดฐานมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในความครอบครอง อีกทั้งจำเลยยังได้พาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ดังกล่าว
นายวิวุฒิ อ่านคำพิพากษา โดยบรรยายฟ้องโจทก์ต่อว่า จำเลยเป็นบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน โดยใช้อาวุธปืนยิงเด็กนักเรียนถึงแก่ความตาย 3 คน ได้รับอันตรายสาหัส 7 คน ได้รับอันตรายแก่กาย 5 คน ซึ่งการกระทำของจำเลย และพวกถือเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน พ.ศ. 2490 และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 5, 11, 12, 41, 56, 62, 81
นายวิวุฒิ อ่านคำพิพากษาต่อว่า สำหรับคดีดังกล่าว นายจอบิ จำเลย ได้ให้การปฏิเสธ ซึ่งศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า พยานโจทก์มีพิรุธหลายประการ ดังนั้นจึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรค 2 จึงพิพากษาให้จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.หลบหนีเข้าเมือง โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน และเข้าเมืองมาโดยไม่ได้รับอนุญาตให้จำคุก 6 เดือน รวม 12 เดือน ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายวิวุฒิ ได้อ่านคำคำพิพากษาเสร็จสิ้น นายจอบิ ได้เดินออกจากห้องพิจารณาคดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และดีใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ระหว่างที่ นายจอบิ เดินออกมา ได้มีบรรดาญาติของเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านคาที่เสียชีวิต และถูกทำร้าย กว่า 50 คน มายืนให้กำลังใจพร้อมกับปรบมือให้กำลังใจ โดยทุกคนต่างระบุว่า นายจอบินั้นไม่ใช่คนร้ายตัวจริงที่มายิงลูกของพวกเขา ทางด้านนายจอบิ เปิดเผยหลังศาลพิพากษายกฟ้องว่า ดีใจมากที่ศาลยกฟ้อง ขณะนี้คิดถึงลูก และเมียมาก โดยจะรีบออกจากเรือนจำ เพื่อไปหาลูกเมีย
นางสมศรี วรรณะ แม่ของ ด.ช.ประสิทธิ์ วรรณะ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงถล่มรถนักเรียนโรงเรียนบ้านคาว่า มั่นใจตั้งแต่แรกแล้วว่า นายจอบิ ไม่ใช่คนร้ายที่ก่อเหตุ ดังนั้นจึงไม่อยากให้มารับเคราะห์กับสิ่งที่ไม่ได้กระทำ "เมื่อลูกของฉันตายไปแล้วก็ไม่อยากให้คนบริสุทธิ์ต้องตายตามไปอีก ฉันมาให้กำลังใจ นายจอบิทุกครั้งที่ขึ้นศาล เพราะอยากให้หลุดจากคดีนี้ และอยากเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวคนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดีให้ได้" นางสมศรี กล่าว

ที่มา : คมชัดลึก 1 เม.ย.47 [1 เม.ย. 47 11:45] ( IP A:203.113.67.36 X: )
http://www.pantown.com/board.php?id=1607&area=1&name=board5&topic=11&action=view


พ่อ-แม่เหยื่อทมิฬบุกร้อง ป.รื้อคดีถล่ม"รถ นร."สอบสารถีเพิ่มหวังลากคนผิดมาลงโทษให้ได้
ผู้ปกครอง นร.โรงเรียนบ้านคาวิทยา ราชบุรี รวมตัวร้องกองปราบฯ ให้รื้อคดีอีกครั้ง หลังศาลยกฟ้อง"จอบิ" วอนสอบเพิ่ม"ทองมอญ"คนขับรถวันเกิดเหตุถูกโจรยิงถล่ม เพื่อลากตัวคนร้ายตัวจริงเข้าคุก แฉคนในพื้นที่รู้ดีว่าโชเฟอร์มีปัญหาขัดแย้งหลายอย่างที่เปิดเผยไม่ได้ เพราะเป็นคนเดียวที่น่าจะรู้เรื่องทั้งหมด แต่ถูกผู้มีอิทธิพลข่มขู่ไม่ให้พูดความจริง แม้แต่หน้าก็ยังไม่กล้ามอง

ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 ส.ค.2547 นายสุชิน ทองคำ อายุ 65 ปี นายฉลอง อู่ตระเภา อายุ 61 ปี และนางสมศรี วรรณะ อายุ 49 ปี ผู้ปกครองเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านคาวิทยา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงใส่รถนักเรียน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมควร พึ่งทรัพย์ สว.ผ.4 กก.2ป. เพื่อเข้าร้องทุกข์ขอให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำพยานในคดีบางปากเพิ่มเติม โดยเฉพาะนายทองมอญ เข็มทอง คนขับรถรับส่งนักเรียนคันที่เกิดเหตุ เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้ที่ทราบสาเหตุทั้งหมดได้ดีที่สุด เพื่อที่จะได้ติดตามจับกุมผู้ที่กระทำผิดที่แท้จริงมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายสุชิน กล่าวว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการมากว่า 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ คนในพื้นที่ทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร และเชื่อว่าสาเหตุก็น่าจะมาจากตัวของนายทองมอญ ที่ส่วนตัวแล้วเห็นว่ามีปัญหาขัดแย้งหลายอย่างที่ยังไม่ได้เปิดเผย จึงขอให้ทางกองปราบฯ ช่วยลงไปดำเนินการสอบปากคำนายทองมอญเพิ่มเติมด้วย

"ตอนนี้นายทองมอญไม่ยอมคุยกับพวกผมเลย แม้แต่หน้าก็ยังไม่กล้ามอง ผมรู้มาจากคนใกล้ชิดของนายทองมอญว่าเจ้าตัวทราบเรื่องนี้ดีที่สุด แต่ที่ไม่กล้าเปิดเผยหรือพูดอะไรก็เพราะว่ามีผู้มีอิทธิพลคอยข่มขู่ และบีบบังคับไม่ให้เปิดเผยข้อเท็จจริงใด ๆ" นายสุชินกล่าว

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 4 มิ.ย. 2545 ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบสัญชาติ 3 คน สวมชุดลายพรางทหาร ปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดกระสุนเข้าใส่รถรับส่งนักเรียน ร.ร.บ้านคาวิทยา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ขณะนายทองมอญ เข็มทอง คนขับรถ กำลังพานักเรียนไปส่งโรงเรียน เป็นเหตุให้เด็กนักเรียนผู้บริสุทธิ์ ตกเป็นเหยื่อกระสุนเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น 3 ศพ บาดเจ็บอีกนับ 10 คน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสืบสวนสอบสวนถึงผู้ก่อเหตุและสาเหตุ กระทั่งวันที่ 18 ก.ค.2545 ปีเดียวกัน ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 137 อ.สวนผึ้ง จ.ราช บุรี สามารถจับกุม "นายจอบิ" ผู้ต้องสงสัยชาวกะเหรี่ยงได้ ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านห้วยตำหนัก ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง

นายจอบิ ให้การว่า อยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วย แต่ไม่ได้เป็นผู้ลงมือ โดยถูกนาย "พุโค๊ะ" จอมโจรแนวชายแดนไทย-พม่า ชักชวนไปล่ากระทิงในป่าด้วยกัน แต่ไม่สำเร็จจึงถูกพาให้ไปปล้นรถชาวบ้านจนเกิดเหตุสลดในที่สุด

หลังพนักงานสอบสวนสอบปากคำนายจอบิแล้วเสร็จ จึงนำตัวให้อัยการส่งฟ้องต่อศาล จ.ราชบุรี โดยศาลนำคดีเข้าพิจารณา กระทั่งวันที่ 31 มี.ค. 2547 จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่าพยานโจทก์เบิกความมีพิรุธ จึงยกประโยชน์ให้จำเลย แต่ให้จำคุกข้อหาหลบหนีเข้าเมืองเป็นเวลา 1 ปี ท่ามกลางความยินดีปรีดาของผู้ปกครอง นร. ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บ เพราะไม่มีใครเชื่อว่านายจอบิเป็นผู้กระทำผิดจริง สร้างความแปลกใจให้กับผู้ติดตามข่าวสารเป็นอย่างมาก จากนั้นนายจอบิจึงต้องเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในห้องขังของด่านตรวจคนเข้าเมืองกาญจนบุรี ตามคำพิพากษา แต่จากอาการเจ็บป่วยที่กล้ามเนื้อแขนและขาจนไม่สามารถทำงานได้เหมือนเก่าจึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาตัว ความทราบถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์การรักษาแก่นายจอบิ ทำให้ชีวิตกะเหรี่ยงธรรมดาคนหนึ่งผกผัน จากที่จะตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตาย กลายเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ กระทั่งผู้ปกครอง นร. ที่เสียชีวิต ได้รวมตัวร้องเรียนกองปราบปราม เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดตัวจริงอีกครั้ง.

ที่มา : นสพ.เดลินิวส์ [10 ส.ค. 47 16:15] ( IP A:203.150.217.115 X: )
http://www.pantown.com/board.php?id=1607&area=1&name=board5&topic=25&action=view

ปัดฝุ่นยิงรถ นร.ราชบุรีพยาน-หลักฐานใหม่ หลังยกฟ้องแพะ จอบิ จับตาสมุนเจ้าพ่อบ้านคา

ปัดฝุ่นยิงรถ นร.ราชบุรีพยาน-หลักฐานใหม่
หลังยกฟ้องแพะ "จอบิ" จับตาสมุนเจ้าพ่อบ้านคาหลังจากศาล จ.ราชบุรี มีคำพิพากษายกฟ้อง "จอบิ" อดีตจำเลยคดียิงรถนักเรียนโรงเรียนบ้านคา เมื่อต้นปี 2547 ข่าวคราวเกี่ยวกับคดีนี้ก็เงียบหายไปนานกว่า 1 ปีแต่แล้วจู่ๆ ข่าวนี้กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง เมื่อตำรวจพบเบาะแสใหม่เกี่ยวกับฆาตกรตัวจริง ที่ก่อเหตุยิงรถนักเรียน ทำให้มีนักเรียนเสียชีวิตถึง 3 รายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อปี 2545 ผู้ต้องสงสัยเป็นคนไทยอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีปัญหากับคนขับรถรับ-ส่งนักเรียน โดยเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากพยานแวดล้อมหลายปากจนนำมาส่งการรื้อคดีนี้โดยตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจกองปราบปราม


พบพยาน-หลักฐานชิ้นใหม่
คดีคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม16 ยิงถล่มรถรับส่งนักเรียบนโรงเรียนบ้านคา จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2545 เป็นเหตุให้มีนักเรียนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนหนึ่งตำรวจจับกุมนายจอบิ หนุ่มกะเหรี่ยงบ้านห้วยน้ำหนัก ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยระบุว่าเป็นหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุ และยังให้การสารภาพด้วยกว่า 1 ปีที่ตำรวจส่งให้อัยการสั่งฟ้องและสืบพยานในศาล จอบิถูกควบคุมตัวไว้ตลอดเวลา

แต่ท้ายที่สุด ศาล จ.ราชบุรี มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยเนื่องจากพยานหลักฐานของตำรวจไม่เพียงพอคดีนี้ก็เงียบหายไปนานนับปีโดยไม่มีทีท่าว่าจะจับกุมฆาตกรที่ก่อเหตุได้ ทำให้พ่อแม่ของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิต ร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี และกองปราบปรามให้รื้อฟื้นคดีใหม่ แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าแต่แล้วช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ข่าวนี้ได้รับความสนใจอีกครั้งเมื่อตำรวจได้เบาะแสใหม่เกี่ยวกับฆาตกรที่ก่อเหตุดังกล่าวอย่างบังเอิญ !??

ปมล้างแค้นคนขับรถ นร.
โดยช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสวก ปิ่นสินชัย ผบก.ป่าไม้ พ.ต.อ.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง รอง ผบก.ป่าไม้ นำกำลังเข้าจับกุมการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ ที่ กิ่ง อ.บ้านคา ผลการสืบสวนสอบสวนชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะเมื่อเจาะเข้าไปในกลุ่มผู้มีอิทธิพลในย่านนั้น เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับคดียิงรถนักเรียนอย่างไม่คาดฝัน !??

พล.ต.ต.เสวก ทำหนังสือถึง พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รอง นายกฯ และ รมว.มหาดไทย รวมทั้ง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. เพื่อขอให้มีคำสั่งรื้อคดียิงรถนักเรียนอีกครั้ง พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป. รับสำนวนการสอบสวนของตำรวจป่าไม้ มาตรวจสอบพร้อมส่งทีมงานเข้าพื้นที่ กิ่ง อ.บ้านคา อีกครั้งเจ้าหน้าที่เรียกสอบสวนพ่อแม่เด็กนักเรียนที่เสียชีวิต และนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้ง นายทองมอญ เข็มทอง คนขับรถรับ–ส่งนักเรียนมีรายงานว่า

ผู้ต้องสงสัยคราวนี้เป็นคนไทยชื่อย่อ "ส" สมุนของเจ้าพ่อรายหนึ่ง และเป้าหมายในการก่อเหตุคือตัวนายทองมอญ นั่นเอง !??

แฉเหตุทะเลาะในโอเกะ
การสืบสวนสอบสวนครั้งใหม่ตำรวจพบว่า นาย "ส" เป็นลูกน้องผู้มีอิทธิพลใน จ.ราชบุรี มีเรื่องขัดแย้งอย่างรุนแรงกับนายทองมอญ ภายในร้านคาราโอเกะ "ใจสั่งมา" ของนายทองมอญ ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น "เกาลูน"
นาย "ส" กับสมุนจำนวนหนึ่งไปเที่ยวร้านคาราโกะ แล้วเกิดสนใจเด็กเสิร์ฟชาวกะเหรี่ยงคนหนึ่ง จึงต้องการซื้อบริการ แต่เด็กสาวไม่ยอม นายทองมอญ ในฐานะเจ้าของร้านเข้ามาเคลียร์ แต่กลับมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับ นาย "ส" ทำให้นายทองมอญขู่จะแจ้งตำรวจ พยานระบุว่า นาย "ส" โมโหมาก กล่าวคำอาฆาตก่อนออกไปจากร้านว่า"อีก 2-3 วันเจอกูแน่ มึงตายแน่" และหลังจากนั้นอีก 3 วันก็เกิดเหตุคนร้ายดักยิงถล่มรถนายทองมอญ ขณะขับพานักเรียนไปส่งที่โรงเรียนบ้านคา มีรายงานอีกว่าพยานเด็กนักเรียนรายหนึ่ง ซึ่งเคยให้การว่า นายจอบิ ไม่ใช่มือปืน ระบุกับตำรวจว่าจำหน้าคนร้ายได้คือ นาย "ส" นั่นเอง !??

โดยก่อนหน้านี้พยานนึกไม่ออกว่าเคยเห็นมือปืนที่ไหน จนเมื่อมาเจอ นาย "ส" อีกครั้ง ในหมู่บ้านหลังจากนายจอบิถูกจับแล้ว จึงจำหน้าได้แม่นยำ และยังนำเรื่องไปบอกผู้ปกครองด้วย แต่ผู้ปกครองเกรงว่าจะมีอันตราย จึงห้ามไม่ให้บอกใคร

พลิกแฟ้มคดีเลือดบ้านคาเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มรถนักเรียนโรงเรียนบ้านคา เป็นกรณีรุนแรงและสะเทือนขวัญยิ่ง เมื่อคนร้ายจำนวนหนึ่งใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มใส่รถนักเรียนตอนเช้า ขณะที่นายทองมอญ ขับรถปิคอัพพานักเรียนเต็มคันผ่านมาบนถนนสายบ้านโป่งเจ็ด–ร่องเจริญ ด.ช.ประสิทธิ์ วรรณะ อายุ 13 ปี ด.ญ.วาสนา ทองคำ อายุ 13 ปี และ ด.ช.กฤษดา อู่ตะเภา อายุ 14 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีนักเรียนได้รับบาดเจ็บอีก 12 คน

ทั้งรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้โดยเร็วที่สุด มีการตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมาเพื่อติดตามคดีนี้โดยเฉพาะเบื้องแรกตั้งไว้หลายประเด็นและผู้ต้องสงสัยหลายกลุ่ม โดยวางน้ำหนักไว้ที่ตัว นายทองมอญ ว่าจะเป็นชนวนเหตุให้คนร้ายดักสังหาร ระหว่างที่กำลังสับสนกับสาเหตุและกลุ่มผู้ต้องหานี้เอง ตำรวจก็เข้าจับกุม นายจอบิ หรือ จอระแบ หนุ่มกะเหรี่ยงบ้านห้วยน้ำหนัก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรีโดยเจ้าหน้าที่อ้างว่านายจอบิ ให้การสารภาพว่าเป็นมือปืนที่ก่อเหตุ !??

โวยจับแพะ-ศาลยกฟ้อง
นายจอบิ ถูกคุมขังในเรือนจำมาตลอดระหว่างต่อสู้คดี ห้วงนั้นมีข่าวว่า นายจอบิ ไม่เกี่ยวข้องเป็นแค่แพะเท่านั้น เพราะมีพยานหลายปากยืนยันว่าช่วงเกิดเหตุ นายจอบิ ทำงานอยู่ในไร่มะเขืออีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากพอสมควรมีรายงานว่าไม่มีการสอบปากคำพยานกลุ่มนี้ และเจ้าหน้าอ้างว่า นายจอบิสารภาพเองว่าเป็นคนร้ายแต่มีการแฉภายหลังว่า นายจอบิ สารภาพเพราะไม่รู้ว่าคดีนี้มีโทษรุนแรง และเข้าใจว่าเมื่อสารภาพออกไปคดีจะจบลงและตนจะได้กลับมาอยู่กับลูกเมียอีกตามเดิมที่ไหนได้คำสารภาพดังกล่าวกลายเป็นหลักฐานมัดตัว นายจอบิ ข้อหาฆาตกรรมกระนั้นก็ตาม เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลพยานหลักฐานของฝ่ายอัยการมีน้ำหนักไม่มากพอ เพราะนอกจากคำสารภาพของผู้ต้องหาแล้ว อย่างอื่นแทบจะว่างเปล่าและที่น่าประหลาดที่สุดก็คือ พ่อแม่เด็กที่เสียชีวิต และเด็กที่อยู่ในเหตุการณ์ให้การเป็นเสียงเดียวกันว่านายจอบิ ไม่ใช่คนร้าย

ที่เป็นเช่นเพราะนอกจากจะมีพยานว่าจอบิไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว เด็กนักเรียนที่เห็นคนร้ายระบุชัดว่าคนร้ายมีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนคนปกติทั่วไปในขณะที่จอบิเป็นคนรูปร่างเล็กและตัวเตี้ยเหมือนเด็ก ซึ่งเป็นจุดเด่นที่จำได้ง่ายจากหลักฐานและพยานที่อ่อนยวบนี่เอง ศาล จ.ราชบุรี จึงยกฟ้องจอบิ เมื่อต้นปี 2547 และจากวันนั้นคดีก็เงียบหายไปนานนับปี ก่อนที่จะมีการปัดฝุ่นขึ้นมาอีกคำรบเมื่อตำรวจได้เค้าผู้ต้องสงสัยชุดใหม่ !

ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1291

3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แล้วสรุปว่าจับฆาตกรตัวจริงได้ยัง

ถ้ายัง แล้วจะจับได้มั้ยค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น่าจะรื้อคดีใหม่ครับ. คนร้ายยังจับไม่ได้ครับ. เจอพวกอิทธิพล. ความยุติธรรมอยู่ไหนครับ

Alexandra กล่าวว่า...

ต้องจับได้...นี่ยุค คสช. เชื่อมั่นในยุคลุงตู่!