วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คดีกอบกุลถึงทางตัน..ละครกำลังจะปิดฉาก


บทความนี้ เป็นเพียงบทวิเคราะห์ส่วนตัวของผู้เขียน ไม่มีเจตนาที่จะให้ร้ายใคร ผู้อ่านต้องใช้วิจารญาณในการคิดวิเคราะห์เอง

วันนี้เป็นวันที่ 17 มิ.ย.49 ข้าพเจ้าเริ่มเขียนบทความเกี่ยวกับคดีสังหาร อดีต ส.ส.กอบกุล นพอมรบดี อีกครั้ง หลังจากผ่านพ้นห้วงวันที่ 9-13 มิ.ย.49 ที่ประชาชนคนไทยถือว่าเป็นห้วงเวลามงคลในการจัดงานพระราชพิธีเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในหลวงของเรา จึงตั้งใจที่จะเก็บเรื่องราวต่างๆ ที่ไม่เป็นมงคลเอาไว้ก่อน บทความนี้กว่าข้าพเจ้าจะเขียนจบ ต้องใช้เวลาถึงวันที่ 24 มิ.ย.49 เป็นเวลาอาทิตย์หนึ่งเต็มๆ

หลังจากที่ได้โอนคดีสังหาร อดีต ส.ส.กอบกุลฯ จากสำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 ไปให้กองปราบปราม เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.49 ที่ผ่านมา เรื่องราวข่าวคราวความคืบหน้าของคดี ก็เงียบหายไปจากหน้า สื่อ และ น.ส.พ.เกือบหมด

ข้าพเจ้าลองมานั่งนึกลำดับเหตุการณ์ต่างๆ จากคดีการสังหาร อดีต ส.ส.กอบกุล นพอมรบดี เมื่อคืนวันที่เสาร์ที่ 27 พ.ค.49 ที่ผ่านมาอีกครั้งเพื่อทำการทบทวน โดยการลำดับเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้าเขียนนี้ เป็นการอนุมานเอาเอง จากข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่ได้รับ อาจผิดพลาดจากผลการสืบสวนของตำรวจไปบ้าง เนื่องจากข้อมูลบางอย่าง พนักงานสืบสวนไม่ได้เปิดเผยให้สื่อมวลชนและสาธารณชนได้รับทราบ

ข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับสัญลักษณ์
xx.xx น. หมายถึง เวลาที่ไม่สามารถระบุได้แน่ชัด (+/ -) หมายถึง เวลาที่อาจคาดเคลื่อนไปล่วงหน้าหรือย้อนหลัง

ข่าวลือก่อนที่จะถึงคืนวันสังหาร
-มีผู้ติดต่อนายจำรณหรือจำลอง อ่วมทอง กำนันเพชรบุรี และนายศุภฤกษ์ อ่วมทอง สองพ่อลูก เป็นมือปืนสังหาร อดีต ส.ส.กอบกลุฯ
-นายจำรณหรือจำลอง อ่วมทอง และบุตรชาย มาดูตัว ตัดสินใจไม่รับงาน เนื่องจากตนเองจะสังหารเฉพาะคนที่ไม่ดี แต่ ส.ส.กอบกุลฯ เป็นคนดีและเป็นผู้หญิง จึงเป็นเพียงผู้หาปืน M16 ที่ใช้สังหารให้
-นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ส.ท.ต่าย) จึงรับเป็นมือปืนสังหารเอง โดยชักชวนนายอานนท์ พันรัตน์ (เอ็ม) เข้าร่วมด้วยอีกคน
-นายต่ายพานายเอ็ม ไปฝึกซ้อมยิงปืน M16 ที่บริเวณสวนป่าอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ฯ หมู่ 3 ต.น้ำพุ อ.เมืองราชบุรี จำนวน 3 ครั้งก่อนลงมือ โดยนายต่ายเป็นผู้สอน

วันศุกร์ที่ 2ุ6 พ.ค.49
-ประชุมและซักซ้อมแผนสังหาร ส.ส.กอบกุล ณ ที่ทำงานของนายอนันตศักดิ์ ฯ ในตลาดศรีเมือง

วันเสาร์ที่ 27 พ.ค.49
-15.00 น. (+/ -) นายอานนท์ พันรัตน์ (เอ็ม) เอาปืน M16 จากท้ายรถ BMW ของนายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ส.ท.ต่าย) ที่จอดอยู่ ณ ที่ทำงานในตลาดศรีเมือง ไปซ่อนไว้ที่บ้านของตัวเอง เลขที่ 109/4 หมู่ 4 ต.หลุมดิน อ.เมืองราชบุรี (ไม่ระบุว่าใช้รถของใคร) (บางข่าวบอกว่าเป็นวันศุกร์ที่ 26 พ.ค.49 )
-xx.xx น. ส.ส.กอบกุลฯ ไปร่วมงาน แถว ต.คุ้งกระถิน
-xx.xx น. นายอานนท์ พันรัตน์ (เอ็ม) โทรศัพท์ให้ นายวิญญู รัตนวรรณ (เลิฟ) ขับรถตัวเองมารับที่ตลาดศรีเมือง จากนั้น ทั้งคู่เดินทางไปยังบ้านของนายเอ็ม เพื่อเอาปืน M16 ที่ซ่อนไว้ บรรทุกขึ้นรถ และทำการปิดป้ายทะเบียนปลอมที่จัดเตรียมเอาไว้
-xx.xx น.(+) นายชยสิทธิ์ ธีระวรวงศ์ (เก้า) ขับรถตนเองพา นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ส.ท.ต่าย) จากตลาดศรีเมือง ไปส่งที่บ้านของ นายเอ็ม ที่หลุมดิน เพื่อเตรียมก่อเหตุ หลังจากส่งแล้วนายเก้าก็ขับรถกลับไป
-xx.xx น.(+) นายเลิฟ นายเอ็ม และนายต่าย ขับรถมาดักรอ ส.ส.กอบกุลฯ ที่บริเวณหน้าวัดราชสิงขร
-19.00 น. ส.ส.กอบกุลฯ เดินทางไปถึงงานบวช ที่ หมู่ 14 ต.เกาะพลับพลา อ.เมืองราชบุรี
-19.30 น. (-) นายสงัด พุ่มเพ็ง (สารวัตรเปี๊ยก) โทรศัพท์แจ้งทีมสังหารที่รออยู่หน้าวัดราชสิงขร ว่า อดีต ส.ส.กอบกุลฯ กำลังจะออกจากงานบวช (โดยใช้รหัสเรียก ส.ส.กอบกุลฯ ว่า "สาวน้อย" ) กลุ่มทีมสังหาร จึงขับรถล่วงหน้าออกมาจอดรถ ดักซุ่มรอสังหาร อยู่บริเวณหน้าวัดอรัญญิกาวาส (ถนนเขางูสายเก่า)
-19.30 น.(+) ส.ส.กอบกุลฯ เดินทางออกจากงานบวช ตามเส้นทางสายเก่า เพื่อจะไปงานที่วัดโพธิ์ราษฏร์บูรณะ
-xx.xx น.(+) ระหว่างทาง ส.ส.กอบกุลฯ โทรหา เลขาฯ สอบถามเรื่อง งานที่วัดโพธิ์ราษฎร์บูรณะ เลขาฯ แจ้งว่ากำลังอยู่ในพิธีการบนเวทีแล้ว ส.ส.กอบกุล จึงตัดสินใจเปลี่ยนแผน เดินทางไปร่วมงานแต่งงานที่ ศาลารวมใจ เทศบาลเมืองราชบุรี แทน
-20.00 น.(+) รถ ส.ส.กอบกุลฯ เดินทางผ่านวัดอรัญญิกาวาส กลุ่มทีมสังหาร ขับรถตามหลัง
-20.15 น.(+/ -) รถ ของ ส.ส.กอบกุลฯ ติดไฟแดงบริเวณสี่แยกเขางู ในเลนส์ที่เตรียมจะตรงเข้าเมืองราชบุรี กลุ่มทีมสังหาร ขับรถแซงขึ้นมาจอดทางด้านขวา โดยมี นายเลิฟ เป็นคนขับ คนลั่นกระสุนปืน เอ็ม16 สังหาร คือ นายต่าย ใช้อาวุธปืนเอ็ม16 พานท้ายพับได้ และนายเอ็ม ใช้อาวุธปืนเอ็ม16 กระบอกยาว นั่งยิงจากกระบะท้าย สังหาร ส.ส.กอบกุลฯ เสียชีวิตคาที่ คนขับบาดเจ็บสาหัส ตำรวจติดตามบาดเจ็บเล็กน้อย
-20.20 น.(+) หลังจากสังหารแล้ว กลุ่มมือปืนทั้งหมดขับรถเลี้ยวขวา เข้าถนนเพชรเกษม ไปเลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองราชบุรี ตรงสี่แยกเจดีย์หัก มุ่งหน้าเข้าไปในบริเวณตลาดศรีเมือง แล้วซ่อนปืน M16 ไว้ในกองไม้ที่เก็บขยะอาคาร 7 ทำงานตามปกติ
-20.20 น.(+) ตำรวจติดตามและผู้เห็นเหตุการณ์ช่วยกันนำร่าง อดีต ส.ส.กอบกุล นพอมรบดี และคนขับ ส่ง รพ.เมืองราช
-20.30 น.(+) นายเลิฟ ขับรถที่ใช้ก่อเหตุ มุ่งหน้าเข้า กทม. และนำรถไปฝากญาติที่ พุทธมณฑล ส่วนตัวเองแอบไปพักอยู่แฟลตของตำรวจ
-21.00 น.(-) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ
-21.00 น. (+) ผู้คนที่ทราบข่าว ต่างเริ่มทยอยเดินทางมายัง รพ.เมืองราช ข่าวโทรทัศน์เกือบทุกช่องรายงานข่าวด่วน การสังหาร ส.ส.กอบกุล

วันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค.49
-02.00 น. (+/ -) นายต่ายฯ โทรศัพท์ให้ นายวันชนะ ศุภชัยศิริเรือง (วัน) มาหาเพื่อให้นายวันขับรถพาตนเองและนายเอ็ม เอาปืน M16 ไปทิ้ง นายต่ายและนายเอ็มขึ้นรถนายวัน นำปืนไปทิ้ง โดยเดิมใช้เส้นทางมุ่งหน้าตรงยังทาง อ.สวนผึ้ง แต่พอถึงบริเวณวัดห้วยไผ่ เกิดเปลี่ยนใจย้อนขับกลับมาทิ้งในแม่น้ำแม่กลอง บริเวณวัดใหม่ชำนาญ ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม โดยนายเอ็มฯ เป็นผู้ทิ้งปืนเองทั้ง 2 กระบอก
-03.00 น.(+/-) หลังจากทิ้งปืนเสร็จแล้ว นายต่าย นายเอ็ม และนายวัน เดินทางกลับมา ทำงานที่ตลาดศรีเมือง ตามปกติ
-10.00 น. เคลื่อนย้ายศพ อดีต ส.ส.กอบกุลฯ ไปที่บ้าน ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี
-12.00 น. (+/-) วิญญาณ ของ ส.ส.กอบกุลฯ มาเข้าร่างสตรีอาสาสมัครคนหนึ่งที่มาร่วมงาน (ขอสงวนนาม) บอกผ่านร่างทรงว่า "ผู้จ่ายเงินมือปืน เป็นผู้หญิงที่ชอบใส่เพชร ใส่พลอย และวันนี้จะมางานด้วย ส่วนผู้บงการเป็นผู้ชาย และหากอยากรู้ว่าใคร ให้ไปดูสมุดบันทึกส่วนตัวที่บันทึกเอาไว้ วางอยู่ในสำนักงานฯ" หลังจากนั้นตำรวจก็ขอสมุดบันทึกไป
-14.00 น. พิธีรดน้ำศพ อดีต ส.ส.กอบกุลฯ ที่บ้าน ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี
-เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มสืบสวนสอบสวน หาเบาะแส และพยานหลักฐาน

วันจันทร์ที่ 29 พ.ค.49
-11.00 น. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เจ้าของตลาดศรีเมือง แถลงข่าวว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
-ตลอดวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน หาเบาะแส และพยานหลักฐาน (ต่อ)

วันอังคารที่ 30 พ.ค.49
-เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน หาเบาะแสและหลักฐานเพิ่มเติม
-23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกจับ นายเอ็ม ขณะอยู่ที่โต๊ะสนุกในตลาดศรีเมือง พร้อมพวก นำตัวไปสอบสวนที่ สภอ.เมืองราชบุรี หลังจากสอบปากคำ นายเอ็ม สารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า "เป็นคนขับรถในคืนนั้น โดยมี นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ส.ท.ต่าย) นั่งคุมอยู่เบาะหลัง นายจำรณหรือจำลอง อ่วมทอง กำนันเพชรบุรี และนายศุภฤกษ์ อ่วมทอง สองพ่อลูกเป็นมือปืนสังหาร และนายสงัด พุ่มเพ็ง (สารวัตรเปี๊ยก) เป็นชี้เป้าแจ้งความเคลื่อนไหวของ ส.ส.กอบกุลฯ เสร็จแล้วนำอาวุธปืนที่ยิงไปทิ้งบริเวณหน้าวัดใหม่ชำนาญ ต.เจ็ดเสมียน"

วันพุธที่ 31 พ.ค.49
-03.00 น. (+/ -) นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ส.ท.ต่าย) นำพนักงานและ พ่อค้า แม่ค้าตลาดศรีเมืองประมาณ 200 คน มาชุมนุมที่หน้า สภอ.เมืองราชบุรี ประท้วงการกระทำของตำรวจ ที่จับนายเอ็ม กลัวนายเอ็มจะเป็นแพะ จนใกล้เช้าก็แยกย้ายกันกลับไป
-10.00 น. (-) ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุลฯ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรีเขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ คู่แข่งของ ส.ส.กอบกุลฯ แถลงข่าวว่าไม่เกี่ยวข้อง
-10.00 น. (-) พบนายสงัด พุ่มเพ็ง (สารวัตรเปี๊ยก) กินยาฆ่าตัวตาย ที่บ้านของ นายพงศ์พัฒน์ นาคหนู (เภา) ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 111 หมู่ 7 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ได้เขียนข้อความลาตายเอาไว้ สรุปสาระได้ว่า "การสังหาร นางกอบกุล ในครั้งนี้ เขาเป็นคนทำเองคนเดียว เนื่องจากแต่ก่อน เขาเคยช่วยเหลือนางกอบกุลฯ แต่นางกอบกุลกลับหักหลังเขา และด่าว่าเขา ฝากขอโทษถึง นายนภินทรฯ เจ้าของตลาดศรีเมืองด้วย ที่เขาทำอะไรแล้วไม่บอก"
-14.00 น. (+) นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ส.ท.ต่าย) ถูกควบคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงแรมโกลเด้นซิตี้ และนำมาฝากขังที่ สภอ.เมืองราชบุรี นายต่ายปิดปากสนิท ไม่รับสารภาพใดๆ ?ช่วงบ่าย (ไม่ทราบเวลา) นายจำรณหรือจำลอง อ่วมทอง มือสังหาร ถูกจับได้ที่เพชรบุรี และนายศุภฤกษ์ อ่วมทอง บุตรชาย มือสังหาร ถูกจับได้ที่ตลาดมหาชัย สมุทรสาคร

วันพฤหัสบดีที่ 1 มิ.ย.49
-08.30 น. (+/-) นักประดาน้ำเริ่มงมหาอาวุธปืน M16 ในแม่น้ำแม่กลองบริเวณสะพานหน้าวัดใหม่ชำนาญ ต.เจ็ดเสมียน
-23.00 น. (+) ชุดดำน้ำพบอาวุธปืน M16 จำนวน 1 กระบอก และแมกกาซีนบรรจุกระสุนเต็มจำนวน 20 นัด

วันศุกร์ที่ 2 มิ.ย.49
-14.00 น. (+) นายจำรณหรือจำลอง อ่วมทอง และนายศุภฤกษ์ อ่วมทอง บุตรชาย ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือสังหาร ได้รับการประกันตัว เนื่องจากในคืนเกิดเหตุมีหลักฐานยืนยันที่อยู่แน่นอน ว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือสังหาร
-14.00 น. (+) นายเอ็มกลับคำให้การว่า "นายเลิฟ เป็นคนขับรถ ตนเองและนายต่าย เป็นผู้ลั่นกระสุนลงมือสังหาร"
-ตลอดวัน นักประดาน้ำยังพยายามงมหาอาวุธปืน M16 ที่เหลืออีก 1 กระบอก

วันเสาร์ที่ 3 มิ.ย.49
-ช่วงเช้า จับตัวนายวิญญู รัตนวรรณ (เลิฟ) คนขับรถได้ที่ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
-10.00 น. ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงในสี่แยกนิสสัน ริมถนนเพชรเกษม ต.หลุม ดิน อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมใจกันนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป มาสวดทำบุญพร้อมทั้งถวายอาหาร เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ อดีต ส.ส.กอบกุลฯ เนื่องจากตั้งแต่เกิดเหตุ มีชาวบ้านเห็นผู้หญิงสวมชุดสีแดงมายืนในบริเวณเกิดเหตุเกือบทุกคืน?ตลอดวัน นักประดาน้ำยังพยายามงมหาอาวุธปืน M16 ที่เหลืออีก 1 กระบอก

วันอาทิตย์ที่ 4 มิ.ย.49
-08.00 น. ซ้อมทำแผนสังหาร โดยมีเพียงเฉพาะนายเอ็มและนายเลิฟ?ตลอดวัน นักประดาน้ำยังพยายามงมหาอาวุธปืน M16 ที่เหลืออีก 1 กระบอก

วันจันทร์ที่ 5 มิ.ย.49
-พล.ต.ต นพ.สมยศ ดีมาก โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ แถลงผลตรวจพิสูจน์ศพนายสงัด พุ่มเพ็ง หรือเปี๊ยก 1 ในผู้ต้องหาคดีสังหารนางกอบกุล นพอมรบดี เปิดเผยว่า ตามร่างกายของผู้ตายไม่พบร่องรอยการต่อสู้ มีเพียงบาดแผลฟกช้ำเล็กน้อย ที่บริเวณหลังมือและข้อมือด้านซ้าย ภายในช่องปากและใบหน้าก็ไม่พบบาดแผล โดยพบของเหลวสีเขียวในกระเพาะอาหารและบริเวณลำไส้ส่วนต้น จำนวน 500 ซีซี ซึ่งจากการตรวจวิเคราะห์แล้วพบว่าเป็นสารออร์กานิคไนโตรเจน หรือเเลนเนท ซึ่งระบุได้ว่าเป็นยาฆ่าแมลง แต่ไม่พบสารแอลกอฮอล์หรือยานอนหลับรวมอยู่ในกระเพาะอาหารแต่อย่างใด เบื้องต้นทีมแพทย์เชื่อว่า ผู้ตาย น่าจะกินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตายเอง ไม่ได้ถูกจับกรอกใส่ปากเพื่อฆ่าตัดตอนตามที่มีการตั้งข้อสังเกต อย่างไรก็ตามแพทย์ยังไม่ตัดประเด็นการฆาตกรรมทิ้ง โดยได้ตัดเล็บเพื่อตรวจหาเนื้อเยื่อผู้อื่นที่ติดอยู่ปลายเล็บตรวจพิสูจน์อีกทาง เพื่อให้ผลออกมาแน่ชัดที่สุด
-19.30 น. พิธีสวดพระอภิธรรม และบรรจุศพ อดีต ส.ส.กอบกุล?ตลอดวัน นักประดาน้ำยังพยายามงมหาอาวุธปืน M16 ที่เหลืออีก 1 กระบอก ยังไม่พบ จนถึงเย็นจึงยุติการงม

วันอังคารที่ 6 มิ.ย.49
-โอนสำนวนคดีทั้งหมดให้กองปราบปราม

คำให้สัมภาษณ์ คำพูด และบทความ ของผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข่าวลือ ที่น่าสนใจ

-นายสรอรรถ กลิ่นประทุม รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย (28 พ.ค.49) ซึ่งได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุตั้งแต่คืนวันเกิดเหตุ กล่าวว่า ตำรวจต้องรีบทำคดีนี้ ส่วนตัวเชื่อว่า สาเหตุการสังหารอดีต ส.ส.ราชบุรี น่าจะเป็นเรื่องขัดแย้งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ว.ที่ผ่านมา ที่นางกอบกุลส่ง นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ น้องชาย ลงสมัครจนได้รับเลือกตั้ง โดยไม่สนใจว่าจะไปท้าทาย หรือแตกหักกับใคร ส่วนประเด็นการจะเปิดตลาดกลางการเกษตรแข่งขันกับตลาดใหญ่แห่งหนึ่งของราชบุรี ก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะการแข่งขันกันไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งตำรวจก็ให้น้ำหนักเช่นกัน"

-วันที่ 29 พ.ค. 2549 นางพิมพา จันทร์ประสงค์ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ถึงกับร้องไห้ด้วยความเสียใจในระหว่างแถลงข่าว พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือตลอดเวลา ว่า ตนเองและนางกอบกุลมีความสนิทสนมกันมาก เพราะร่วมงานกันมานาน มีอะไรก็จะเล่าสู่กันฟังเสมอ โดยช่วงก่อนยุบสภา ตนและนางกอบกุลได้ขึ้นไปดูงานที่ จ.เชียงใหม่ด้วยกัน และนางกอบกุล ได้เล่าให้ตนฟังว่า มีคนขู่จะฆ่าตัวเองและครอบครัว และนางกอบกุลก็ได้บอกกับสามีให้ระวังตัว แต่เขาก็ไม่ได้บอกรายละเอียดว่า ใครเป็นคนขู่และสาเหตุมาจากเรื่องอะไร

-พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ตันบุญเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เมื่อ 31 พ.ค.49 “สาเหตุนั้น คาดว่า ผู้ต้องหารายนี้อาจจะเกิดความเครียด เมื่อเพื่อนร่วมขบวนการถูกจับหมด จึงกลัวและคิดกินยาฆ่าตัวตายหนีความผิด โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบตัวทีมฆ่าได้หมดทุกคนแล้ว และจะสอบสวนขยายผลหาตัวผู้บงการใหญ่ต่อไป”

-นางละเอียด บุญเกตุ อายุ 48 ปี ภรรยานายสงัดฯ กล่าวว่า ข้อความข้างตู้ที่เขียนไว้ก่อนตายนั้นยืนยันว่าเป็นลายมือของสามีจริง

-นายณรงค์ พุ่มเพ็ง อายุ 23 ปี ลูกชายนายสงัด รู้สึกสลดหดหู่มากไม่เชื่อว่าพ่อจะกินยาฆ่าตัวตาย เชื่อว่าพ่อต้องถูกฆ่าตัดตอน....ส่วนลายมือที่บอกว่าเป็นลายมือของพ่อนั้นยังไม่เห็น แต่ถ้าเห็นจะจำลายมือพ่อได้ว่าใช่หรือไม่

-นางอนุ พุ่มเพ็ง อายุ 27 ปี ลูกสาวของนายสงัดฯ เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวว่าบิดาเสียชีวิต จากการกินยาฆ่าแมลง รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ซึ่งตามปกติแล้วบิดาจะเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัว และเมื่อรู้ว่าบิดาเสียชีวิต ยิ่งไม่อยากเชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา บิดามักจะสั่งสอนเสมอว่า ให้ลูกทุกคนมีความเข็มแข็งและให้ลูกๆ มีความอดทนในทุกๆสถานการณ์ "ที่ผ่านมาพ่อมักจะสอนว่า คนที่ฆ่าตัวตาย เป็นคนที่เสียชาติเกิด และพ่อก็มักจะบอกเสมอว่า ถ้าลูกคิดฆ่าตัวตาย พ่อก็จะเป็นคนฆ่าให้ตายด้วยน้ำมือของตัวเอง" ส่วนเรื่องคดีที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา พ่อไม่เคยเล่าให้รับรู้เลย สำหรับ นายเภา นาคหนู ถือว่ามีความสนิทสนมกับบิดาก็ว่าได้ แต่ทั้งนี้ตนเองก็ไม่ทราบว่า มีความสนิทถึงขนาดไหน...อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนอยากเห็นจดหมายที่พ่อเขียนเอาไว้ก่อนตาย เพราะทราบดีและจำได้แม่นว่า ลายมือของบิดานั้นเป็นอย่างไร....

-นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เมื่อ 1 มิ.ย.49 "สำหรับกรณีที่นายเปี้ยก กินยาฆ่าตัวตายนั้น ผมสงสัยว่า อาจจะมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมถูกป้ายสีจากบุคคลบางกลุ่มอย่างแน่นอน โดยมีการใช้ลูกน้องของผมเข้าไปทำเพื่อที่จะได้ให้ร้ายผม และในความเห็นส่วนตัว ผมไม่เชื่อว่านายสงัด จะคิดฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด คงจะต้องมีอะไรที่ลึกๆ มากกว่านั้น และมีคนจงใจที่จะนำผมเข้าไปพัวพันกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งผมได้เตรียมใจไว้แล้วว่า อาจจะต้องถูกออกหมายจับ "

- นายชวน หลีกภัย กล่าวในงานสวดศพ อดีต ส.ส.กอบกุล เมื่อ 3 มิ.ย.49 ".....ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการรื้อฟื้นคดีสังหาร นายสุรชัย ม่วงคุ้ม อดีตสมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์บ้าง...ส่วนผู้ที่ต้องหาที่มีความใกล้ชิดกับว่าที่ผู้สมัครระบบปาร์ตี้ลิสของพรรคจะมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ ประเด็นดังกล่าว นายชวนกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบเรื่องคงต้องไปถามหัวหน้าพรรคเอง..."

-นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ส.ท.ต่าย) ..."เดี๋ยวก็รู้ว่าใครทำ ปรักปรำกันเกินไป สอบเด็กก็ยังสอบไม่ถูก มันมีการเมืองเข้ามาด้วย"...(ไม่แน่ใจวันที่พูด)
....“ผมไม่ได้เป็นคนยิง ที่ตำรวจพาไปชี้จุดที่ซ้อมยิงปืนก็มีคนเข้าไปยิงตั้งเยอะตั้งแยะ ตำรวจเองยังเข้าไปซ้อมยิงเลย ส่วนที่ไอ้เอ็มสารภาพไปช่วยทำงานเพราะผมมีบุญคุณนั้น อยากถามว่า คนที่มีบุญคุณเขาจะทำกันอย่างนี้เหรอ อย่างกูไม่มีหรอกที่จะไปนั่งตากฝนรอยิงคน เรื่องสารวัตรเปี๊ยกก็แค่คนชี้เป้าจะต้องไปกินยาตายเชียวเหรอ ถ้ากูยิงจริง น่าจะกินยาตายหรือกลั้นใจตายมากกว่า แม้แต่ไอ้เภาก็เคยเล่าให้ฟังว่า สารวัตรเปี๊ยกเคยบ่นว่าต้องกินยาตาย หากไม่ตายก็จะไม่มีแผ่นดินอยู่”.... (4 มิ.ย.49)

-คำสัมภาษณ์ ของ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร. โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “อยากเรียนให้ทราบว่าสำหรับผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่สูงกว่านี้นั้น ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาได้หลุดปากมารายหนึ่งว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น นายจะรับผิดชอบ แต่เมื่อสอบรายละเอียดลงไปคำว่า นาย หมายถึง ส.ท.ต่าย ส่วนนี้พนักงานประชุมแล้วรายงานว่า มีบางส่วนอาจต้องสอบเพิ่มเติม คดีนี้ก็เหมือนภาพยนตร์ไทยที่ผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดระดับ “เกชา เปลี่ยนวิถี” ใช้คนรอบข้างระดับ “ดามพ์ ดัสกร” เหมือนในภาพยนตร์ที่เราเห็น ทำให้มีความรู้สึกว่าผู้อยู่เบื้องหลังจริงๆน่าจะมี”

-แหล่งข่าวระดับสูงของชุดสืบสวน เปิดเผยกับ "คม ชัด ลึก" ว่า แนวทางการสืบสวนมุ่งประเด็นความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจก่อสร้างใน จ.ราชบุรี ซึ่งผู้ตายเป็นเจ้าของบริษัทท่าราบก่อสร้าง และอยู่ระหว่างก่อสร้างตลาดเมืองราช เป็นตลาดรับ-ส่งสินค้าขนาดใหญ่ในภาคกลาง ซึ่งทำให้มีปัญหากับเจ้าของตลาดชื่อนาย "ร" อดีตนักการเมืองระดับชาติ เนื่องจากนาย "ร" เป็นหัวคะแนนและเป็นฐานเสียงให้กับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง รวมทั้งการเลือกตั้ง ส.ว.ที่น้องชายของนางกอบกุลชนะการเลือกตั้ง...แหล่งข่าวระดับสูงคนเดิม ระบุด้วยว่า ได้ส่งชุดสืบสวนออกหาข่าวเกี่ยวกับซุ้มมือปืนใน จ.ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคิรีขันธ์ มาเปรียบเทียบกับแผนประทุษกรรมในที่เกิดเหตุ โดยได้ขอข้อมูลคดีสังหาร นายประยูร สวนเพลง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหัวยชินสีห์ อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และคดีสังหาร "โกป่วน" ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อปลายปี 2548 ซึ่งทั้ง 2 คดีคนร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 โดยพบว่ามือปืนนั่งรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นพาหนะ ซึ่งสอดคล้องกับคดีของนางกอบกุล

- .....พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า ส่วนผู้จ้างวานจะมีหรือไม่ ขณะนี้พยานหลักฐานยังไม่แน่นหนาพอ ประกอบกับกลุ่มเหล่านี้ อาจมีนักการเมืองให้การสนับสนุน สามารถกดดันเจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ จึงจะโอนคดีไปให้กองปราบปรามรับไปดำเนินการต่อ ..... เพื่อป้องกันข้อครหานินทา เนื่องจากชาวบ้านวิจารณ์ว่าคดีไม่มีทางถึงผู้บงการ...

-พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย รักษาการ ส.ว.เชียงใหม่ กล่าวว่า เคยรู้จักกับนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รักษาการ ส.ว.ราชบุรี และเห็นว่าเป็นคนที่ไม่ได้มีพิษภัยอะไร จำได้ว่าเมื่อครั้งที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อต้นปี 48 นางกอบกุล นพอมรบดี ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคไทยรักไทย ได้ไปหาเสียงที่ตลาดศรีเมืองของนายนภินทร ปรากฏว่านายนภินทรยังเป็นคนเดินนำนางกอบกุลไปหาเสียงในตลาดด้วยกันอย่างสนิทสนม "ผมไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังว่าใครจะเป็นผู้บงการฆ่า แต่ถ้านายนภินทรต้องขึ้นศาลหรือตกเป็นผู้ต้องหา ผมจะเป็นคนหนึ่งที่ขอเป็นพยานให้นายนภินทร ในฐานะที่รู้จักกันมาและพูดในสิ่งที่เห็น อย่าเอาความรู้สึกที่คิดว่าน่าจะเป็นคนนั้นคนนี้ โดยไม่ได้ดูหลักฐาน เหมือนที่เคยจับกุมหมอแว (นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะส.ว.นราธิวาส) ที่สุดท้ายศาลก็ไม่รับฟ้องและเมื่อลงสมัคร ส.ว. ปรากฏว่าได้รับคะแนนเสียง อย่างท่วมท้น"

- ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ รักษาการ ส.ว.ราชบุรี กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับการสูญเสียบุคลากรทางการเมืองอันมีคุณค่าของ จ.ราชบุรี โดยเฉพาะเมื่อนายนภินทร รักษาการ ส.ว.ราช บุรี ตกเป็นเป้าอยู่เบื้องหลังการสังหารนางกอบกุล จึงอยากขอร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความสุขุม รอบคอบในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้าย โดยมั่นใจว่านายนภินทรไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่อาจจะเป็นทางลูกน้องรับงานมาทำเอง และที่รู้มาว่าทางนายนภินทรได้ถูกวางตัว จากพรรคการเมืองให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ และมีสิทธิได้รับเก้าอี้รัฐมนตรี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้ นายนภินทรตกอยู่ในสภาพลำบาก และกระทบต่ออนาคตทางการเมืองอย่างแรง อย่างไรก็ตาม ตนไม่เชื่อว่าคนอยู่เบื้องหลังการฆ่านางกอบกุล จะเป็นเพื่อน ส.ว. คนนี้อย่างแน่นอน"

- ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายนำโดยกองปราบปรามและศูนย์สืบสวนภาค 7 ได้ควบคุมตัว นายรุ่ง (ไม่ทราบนามสกุล) เด็กขายพวงมาลัยในตลาดศรีเมือง ไปสอบสวนปากคำในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง เนื่องจากตามแนวทางการสืบสวนทราบว่า นายรุ่งเป็นผู้ที่นำอาวุธปืนเอ็ม 16 ไปทิ้งในแม่น้ำแม่กลอง บริเวณสะพานบางตะโหนด ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังเกิดเหตุ โดยนายรุ่ง จะเป็นกุญแจสำคัญอีกคนหนึ่ง ที่จะเชื่อมโยงไปถึงผู้ร่วมขบวนการ แต่การสอบสวนยังไม่เป็นที่เปิดเผย

-นายเล็ก ศักดิ์สมบูรณ์ บิดาของ อดีต ส.ส.กอบกุลฯ กล่าวฝากกองปราบปรามฯ เมื่อวันไปขอบคุณการทำงานของตำรวจ ที่ สตช. (6 มิ.ย.49) ".....ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการรื้อฟื้นคดีสังหาร นายสุรชัย ม่วงคุ้ม และนักการเมืองอีกหลายคน ที่เกิดขึ้นใน จ.ราชบุรี"

-นายสุรินทร์ สวัสดี พ่อบุญธรรมของ นายอนันตศักดิ์ กล่าวเมื่อ 13 มิ.ย.49 ว่า นายอนันตศักดิ์ได้มาอยู่กับตนตั้งแต่เด็ก และเห็นว่านายอนันตศักดิ์เป็นคนขยัน จึงให้มาทำงานด้วย ซึ่งพ่อและแม่นายอนันตศักดิ์เป็นใครตนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าครอบครัวของนาย อนันตศักดิ์อยู่ในจังหวัดราชบุรี ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ตนไม่เชื่อว่านายอนันตศักดิ์เป็นคนทำ ก็ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ และทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรมกับนายอนันตศักดิ์ด้วย

ข้อความบางตอนจากการตรวจสอบโทรศัพท์ของกลุ่มคนร้ายด้วยโปรแกรมไอทู
.....ผลการตรวจสอบจากโปรแกรมไอทูพบว่า ก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุทั้งสามคน (หมายถึง นายต่าย นายเอ็ม และนายเปี๊ยก) มีการติดต่อสื่อสารกันตลอด แล้วยังเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่งอย่างน่าสงสัย.........ซึ่งโปรแกรมไอทูเองก็แสดงหลักฐานการติดต่อระหว่างนายวิญญูกับผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆ ด้วย แม้จะอ้างกับญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ว่าหลบไปอยู่ต่างจังหวัด แต่หลักฐานที่พบในโปรแกรมไอทูกลับเป็นไปอีกทางหนึ่ง........นอกจากนี้ โปรแกรมไอทูยังบอกด้วยว่า ยังมีผู้เกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างน้อยอีก 2-3 คน ประกอบกับการสอบปากคำนายอานนท์อย่างละเอียดให้การซัดทอด นายวันชนะ ศุภชัยศิริเรือง คนนำปืนเอ็ม 16 ทูตสังหารไปทิ้งแม่น้ำแม่กลอง และนายกรวิทย์ หรือเก้านิ้ว วีระวรวงศ์ คนชี้เป้าอีกคน..ทั้งสองให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซัดทอดไปถึง "จอมบงการ" ที่อยู่เบื้องหลังคดีอุกอาจสะเทือนขวัญครั้งนี้ นั่งรับประทานอาหารรอฟังผลปฏิบัติการของทีมสังหารอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่งในเมืองราชบุรี

ข่าวลือเพิ่มเติม
-ข่าวลือที่ 1 อดีต ส.ส.กอบกุลฯ ได้มีการกว้านซื้อที่ดินเพื่อทำการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าคาร์ฟู บริเวณสี่แยกเจดีย์หัก และได้เป็นที่ตกลงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเดิมห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูจะซื้อที่ดินสร้างบริเวณที่ของนาย จ. (ตลาดกำนันยงค์เก่า) ต่อมาแห่งที่สองคือ บริเวณตลาดกำนันหลัก และสุดท้ายกลับกลายมาเป็นที่ดินของ ส.ส.กอบกุลฯ ที่กว้านซื้อเอาไว้ตรงสี่แยกเจดีย์หัก
-ข่าวลือที่ 2 คืนวันสังหาร หลังจาก ส.ส.กอบกุลฯ ออกจากงานบวชแล้ว ในระหว่างการเดินทาง รถของ ส.ส.ฯ ได้หายไปพักหนึ่ง โดยท่านได้แวะไปงานวันเกิดของชาวบ้านแถวๆ บริเวณนั้น ทำให้คาดสายตาจากคนชี้เป้า....ซึ่งตอนนั้นแผนสังหารจึงถูกสั่งยกเลิกแล้ว..

-ข่าวลือที่ 3 หลังจากยุบสภา มีการเลือกตั้งใหม่ อดีต ส.ส.กอบกุลฯ ก็ได้เป็น ส.ส.เขต 1 ราชบุรี ต่อมา ศาลฯ สั่งการเลือกตั้งใหม่เป็นโมฆะ อดีต ส.ส.กอบกุลฯ จึงถูกวางตัวในการเลือกตั้งครั้งใหม่ เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ภายใต้การสนับสนุนและการผลักดันของ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ซึ่ง อดีต ส.ส.กอบกุลฯ อาจมีสิทธิได้เป็นรัฐมนตรีหญิงในกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่ในข้อตกลงภายในของ พรรคไทยรักไทย ได้มีการแบ่งโควต้า ไว้ว่า ส.ส.ในเขตภาคกลาง จะได้เป็น รมต. เพียงคนเดียว ซึ่งเดิมมี นาย ส. เป็นอยู่ หากอดีต ส.ส.กอบกุลฯ ขึ้นมาแทนที่ นาย ส.จะหมดสิทธิ์ทันที
-ข่าวลือที่ 4 นาย ส. เป็น รมต.ที่ถูกปรับย้ายหลายกระทรวง เนื่องจากทำงานไม่เก่ง ผลงานไม่เข้าตา อีกทั้ง นาย ส. ยังเป็น ส.ส.ในกลุ่มวังน้ำเย็น จึงไม่ค่อยเป็นที่ไว้วางใจของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ นายก รมต.เท่าใดนัก พรรคไทยรักไทยจึงกำลังจะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน ส.ส.ภาคกลาง (ซึ่งเดิม นาย ส.เป็นอยู่) แหล่งข่าวภายในแจ้งว่า อดีต ส.ส.กอบกุลฯ อาจจะถูกเลือกให้ขึ้นเป็นแทน นาย ส. (ภายใต้การสนับสนุนและการผลักดันของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ)
-ข่าวลือที่ 5 คืนนั้นทีมสังหาร อดีต ส.ส.กอบกุลฯ อาจจะมีจำนวน 2-4 ทีม
-ข่าวลือที่ 6 คืนวันสังหารกอบกุลฯ นาย ส. นั่งรับประทานอาหารอยู่ร้านอาหารไทย, นาย น. นั่งรับประทานอาหารอยู่ร้านคาวบอย ส่วน นาง ก. พร้อมครอบครัวทั้งหมด ร่วมงานเลี้ยงเล็กๆ อยู่แถวซอยต้นจันทร์
-ข่าวลือที่ 7 กำนัน ร. มอบเงินให้ ส.ส.กอบกุลฯ ช่วยซื้อเสียงให้ ตอน เลือก สว. แต่ ส.ส.กอบกุลฯ หักหลัง
-ข่าวลือที่ 8 การสังหาร ส.ส.กอบกุล ในคืนนั้น ยังมี นาย ฟ. นาย ร. ซึ่งทำงานอยู่ในตลาดศรีเมือง ร่วมทีมสังหารด้วย

-ข่าวลือที่ 9 นายสงัดหรือสารวัตรเปี๊ยก มีเงินฝากอยู่ในธนาคารฯ มากกว่า 40 ล้านบาท

แผนการสังหาร อดีต ส.ส.กอบกุลฯ มีบางอย่างที่ไม่สมบูรณ์
หลังจากท่านผู้อ่านได้อ่านลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งคำให้สัมภาษณ์ คำพูด และบทความ ของผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข่าวลือ ที่น่าสนใจ อาจจะพอมองเห็นข้อสังเกตและข้อมูลบางอย่างที่ยังรู้สึกติดๆ ขัดๆ อยู่ ดังนี้

ทำไมทีมสังหารจึงไปดักรออยู่บริเวณหน้าวัดอรัญญิก?
-ในคืนนั้น เมื่ออดีต ส.ส.กอบกุลฯ ออกเดินทางจากงานบวช ที่ ต.เกาะพลับพลา จะสามารถเลือกใช้เส้นทางเข้าเมืองราชบุรีได้สองเส้นทาง คือ ทางถนนเจดีย์หัก และทางถนนเขางูสายเก่า(ผ่านหน้าวัดอรัญญิก) ....ถ้าคืนนั้น อดีต ส.ส.กอบกุลฯ เลือกเดินทางถนนสายเจดีย์หัก คงไม่ถูกสังหาร.....ทีมสังหารไม่น่าชะล่าใจเช่นนี้ ...หรือว่า ทีมสังหารมั่นใจว่า อดีต ส.ส.กอบกุลฯ จะมาทางถนนเขางูสายเก่าอย่างแน่นอน ..หรืออีกประเด็นหนึ่ง เดิมทีมสังหารดักรออยู่หน้าวัดราชสิงขร แต่คลาดกับอดีต ส.ส.กอบกุลฯ (ซึ่งข่าวว่า ส.ส.กอบกุลฯ หายไปงานวันเกิดของชาวบ้านคนหนึ่งแถวบริเวณนั้น โดยไม่มีใครรู้) จึงยกเลิกแผนสังหาร และกำลังขับรถกลับไปตั้งหลักที่บ้านนายเอ็ม ที่หลุมดิน เพื่อเอาปืน M16 ไปซ่อนกลับไว้ตามเดิมที่บ้านนายเอ็มฯ แล้วค่อยหาโอกาสลงมือใหม่...แต่ขณะที่เดินทางกลับ เผอิญได้รับแจ้งจากคนชี้เป้าว่า พบ ส.ส.กอบกุลฯ แล้ว กำลังเข้าเมืองโดยใช้เส้นทางสายเก่านี้....ทีมสังหารจึงหยุดรถดักรอที่หน้าวัดอรัญญิก ...เพื่อหาจังหวะลงมือ...

พื้นที่สังหาร (Killing Zone) ไม่เหมาะสม และเวลาสังหาร (Timing) มีน้อยเกินไป..?
-หากทีมสังหารดักรออยู่หน้าวัดอรัญญิก เวลารถ ส.ส.กอบกุลฯ ซึ่งผ่านมาด้วยความเร็ว แล้วรถทีมสังหารจึงค่อยออกรถตามมา กว่าจะเร่งความเร็วทันกัน เพื่อตามประกบยิง ระยะทางก็เกือบจะถึงสี่แยกเขางูแล้ว คงหมดโอกาสลงมือ....
-การขับรถประกบยิง ต้องเป็นคนขับรถที่มีฝีมือ ส่วนมือสังหารต้องมีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธมาก... ดูแล้วนายเลิฟ นายเอ็ม และนายต่าย ไม่น่าจะเลือกใช้แผนนี้... เพราะขาดความชำนาญ และยิ่งเป็นเป้าเคลื่อนที่ด้วยแล้ว พอเริ่มขับรถประกบ หากยิงนัดแรกไม่ล่วง ...คนขับรถ ส.ส.กอบกุลฯ ย่อมตื่นตัว และขับรถหนีได้ทัน....ทีมสังหารไม่น่าวางแผนแบบนี้...
-หากคืนนั้น รถ ส.ส.กอบกุลฯ ไม่ติดไฟแดง หรือเลี้ยวซ้ายไปงานต่อที่วัดโพธิ์ราษฎร์บูรณะ หรือกลับบ้านเลย...แผนสังหารคืนนั้นคงล้มเหลว...กลุ่มทีมสังหารไม่น่าประมาท...

นายสงัด พุ่มเพ็ง ฆ่าตัวตาย หรือถูกวางยา?
-ร.พ.ตำรวจ แถลงว่า นายสงัด พุ่มเพ็ง น่าจะกินยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตายเอง ไม่ได้ถูกจับกรอกใส่ปากเพื่อฆ่าตัดตอนตามที่มีการตั้งข้อสังเกต..
-นางละเอียด บุญเกตุ ภรรยา(หลวง) ของนายสงัดฯ ยืนยันว่าลายมือที่นายสงัดฯ เขียนไว้ก่อนตาย เป็น ของสามีจริง
-นายณรงค์ พุ่มเพ็ง และ นางอนุ พุ่มเพ็ง ลูกชายและลูกสาวของนายสงัด ยืนยันหนักแน่นว่า พ่อไม่ฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน ส่วนลายมือที่บอกว่าเป็นลายมือของพ่อนั้นก็ยังไม่เห็น แต่ถ้าเห็นจะจำลายมือพ่อได้ว่าใช่หรือไม่
-แหล่งข่าวจากผู้ใกล้ชิด ยืนยันว่า นายสงัดฯ เป็นนักเลง เล่นการพนันเป็นชีวิตจิตใจ เป็นคนปากหวาน เจ้าชู้มีเมียหลายคน คล่ำหวอดในวงการมาอย่างโชกโชน ผ่านเรื่องคอขาดบาดตายมาหลายต่อหลายครั้ง ไม่มีทางที่นายสงัดฯ จะฆ่าตัวตาย....
-นายต่ายฯ เคยพูดถึง นายสงัด ขณะอยู่ในคุก ว่า "สารวัตรเปี๊ยก เป็นแค่คนชี้เป้าจะต้องไปกินยาตายเชียวเหรอ...ไอ้เภา (หมายถึง นายพงศ์พัฒน์ นาคหนู) เคยเล่าให้ฟังว่า..สารวัตรเปี๊ยกเคยบ่นว่าต้องกินยาตาย หากไม่ตายก็จะไม่มีแผ่นดินอยู่.."
อนุมานความเป็นไปได้
1.นายสงัดฯ อาจจะถูกวางยาจากคนใกล้ชิดโดยไม่รู้ตัว พอเริ่มรู้ตัวว่าถูกวางยาแล้ว..ไม่รอดแน่..จึงอาจเขียนข้อความทิ้งไว้ก่อนตาย...
2.มีผู้เกลี่ยกล่อมให้นายสงัดฯ กินยาตาย และก่อนตายควรเขียนข้อความทิ้งไว้ด้วย เพื่อจะได้ไม่มีปัญหา
3.ผู้วางยาอาจเขียนข้อความขึ้นภายหลังที่นายสงัดตายแล้ว


การอนุมานความเป็นไปได้ทั้ง 3 ประเด็นนี้ ต้องรอผลการพิสูจน์ลายมือ ซึ่งจนบัดนี้...ยังไม่มีการแถลงข่าวเรื่องข้อความที่เขียนไว้ ว่าเป็นลายมือของนายสงัดจริงหรือไม่ หากใช่..ขณะที่เขียนมีอารมณ์อย่างไร และต้องการบอกอะไรในข้อความที่เขียนนั้น...

ปืนหายไปไหน 1 กระบอก
-ยังไม่มีการค้นพบปืนของกลางอีก 1 กระบอก ที่อ้างว่านายต่ายใช้ยิง
-ปืนกระบอกที่พบเมื่อ ห้าทุ่มของวันที่ 1 มิ.ย.49 ใช้ปืนกระบอกจริงที่นายเอ็มฯ ใช้ยิงหรือไม่
-แหล่งที่มาของปืน ตำรวจก็ไม่แถลงข่าวโดยแน่ชัด

ทำไมไม่มีการพิสูจน์เขม่าดินปืนที่ตัวฆาตกร
-ตำรวจไม่มีการแถลงผลการพิสูจน์คาบเขม่าดินปืน (พาราฟินเทส) ที่ตัวของนายเอ็ม นายต่าย และสองพ่อลูกเมืองเพชร ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือปืน ซึ่งธรรมดาต้องกระทำ (หรืออาจจะมี แต่เก็บเป็นหลักฐานโดยไม่แถลงข่าว กลัวเสียรูปคดีก็ได้ อันนี้ข้าพเจ้าอนุมานเข้าข้างตำรวจเอง)

นายเภา นายเก้า นายวัน อีกทั้ง นาย ฟ. นาย ร. และนายรุ่ง เด็กขายพวงมาลัย หายไปไหน
-ไม่มีข่าวคราวของนายเภา นาคหนู เลย (เจ้าของบ้านที่นายสงัดฯ ไปกินยาตาย)
-ไม่มีข่าวคราวของนายวันชนะ ศุภชัยศิริเรือง (วัน) ซึ่งเป็นคนขับรถนำปืนไปทิ้ง
-ไม่มีข่าวคราวของนายชยสิทธิ์ ธีระวรวงศ์ (เก้า) ที่ขับรถพา นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ส.ท.ต่าย) ไปส่งที่บ้านนายเอ็ม เพื่อร่วมทีมสังหาร
-นาย ฟ. นาย ร. และนายรุ่ง ก็หายไปจากข่าวเช่นกัน

บทวิคราะห์
ด้านทีมสังหาร
-ทีมสังหาร อดีต ส.ส.กอบกุลฯ คืนนั้น น่าจะมีอย่างน้อย 2 ทีมหรือมากกว่า
-มือปืนผู้ได้รับมอบหน้าที่ลั่นกระสุนสังหารทั้ง 2 ทีม น่าจะเป็นมือปืนอาชีพ สังเกตจากลักษณะการยิงนั้น ไม่ตั้งใจฆ่าคนขับและตำรวจติดตาม ซึ่งหากเป็นฝีมือนายเอ็ม ที่เพิ่งหัดยิงปืน M16 ได้เพียง 3 ครั้ง ณ สถานการณ์นั้นคงต้องตายหมดทั้งคันรถ
-มือปืนมืออาชีพในทีมสังหารนั้น น่าจะเป็นพวกเสือเฒ่า หรือทายาทเกิดใหม่ของมือปืน จึงไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีซุ้มมือปืนของตำรวจ

นายต่ายฯ ทำไมถึงปิดปากเงียบ
-เพราะนายต่ายฯ ไม่ได้ยิง แต่นายต่าย รู้ว่าใครบงการ นายต่ายปิดปากเงียบ เพราะไม่แน่ใจเรื่องความปลอดภัยของภรรยา นายต่าย เชื่อว่าหากตนพูดความจริงไปแล้ว พยานหลักฐานต่างๆ ก็คงไม่เพียงพอที่จะจับจอมบงการได้ เมียตัวเองจะซวย
-นายต่ายรู้ดีว่านายของตนเองไม่สามารถปกป้องภรรยาของนายต่ายได้ เพราะนายของอีกฝ่าย (ที่เป็นจอมบงการ) มีอิทธิพลทางมืดที่เหนือกว่า นายต่ายจึงไม่ยอมเปิดปากสารภาพ ถึงแม้ว่า การเปิดปากสารภาพจะทำให้นายของตนเองพ้นผิดก็ตาม
-การปิดปากเงียบจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในขณะนี้
-ในชั้นศาล นายต่ายฯ ก็เพียงแต่จะต้องพิสูจน์และยืนยันให้ศาลทราบว่าในคืนนั้นว่า "เขาไม่ได้เป็นผู้ยิง อดีต ส.ส.กอบกุลฯ เท่านั้นเอง" แต่นายต่ายคงไม่เปิดปากเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น

นายสงัด (สารวัตรเปี๊ยก) มี สองนาย
-นายแรก เป็นนายเก่า พอนายเก่าหมดอำนาจ ก็ได้มาอาศัยอำนาจ บารมี ของนายใหม่และยึดถือเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร
-แผนการสังหารจากจอมบงการ ถูกสั่งผ่านมายังนายสงัด นายสงัดจึงชักชวนบุคคลรอบข้างฯ (ซึ่งเผอิญเป็นคนที่ทำงานร่วมกันในตลาดศรีเมือง) เข้ามาร่วมทีมสังหาร
-แผนการสังหาร การกำหนดเวลา การจัดหามือปืนและอาวุธถูกส่งผ่านมาทางนายสงัดฯ

นายสงัดถูกหักหลัง
-ตำรวจทำงานได้รวดเร็วมาก รู้ทีมสังหารทั้งหมดภายในไม่ ถึง 3 วัน คือ นายเอ็ม นายต่าย สองพ่อลูกเมืองเพชร และนายสงัดฯ เนื่องจากตำรวจได้รับพรายกระซิบชี้แนะมาว่า น่าจะเป็นคนกลุ่มนี้
-นายสงัดฯ รู้ตัวว่าถูกหักหลัง นายสงัดจึงหนีไม่ยอมให้ถูกจับ (ซึ่งถูกจับแล้วก็อาจจะถูกสั่งเก็บได้เหมือนกัน) เพื่อความปลอดภัยของชีวิตลูกเมียและครอบครัว จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายดีกว่า แถมก่อนตายได้เขียนจดหมายเพื่อเป็นการปลดปล่อยทั้งนายเก่า และนายใหม่ด้วย เพื่อเป็นหลักประกันหรือเป็นข้อสัญญาว่า หลังจากข้าตายแล้ว บรรดานายๆ ทั้งหลายต้องช่วยดูแลลูกเมียของข้าด้วยนะ ดังเช่นข้อความที่ว่า "การสังหาร นางกอบกุล ในครั้งนี้ เขาเป็นคนทำเองคนเดียว เนื่องจากแต่ก่อน เขาเคยช่วยเหลือนางกอบกุลฯ แต่นางกอบกุลกลับหักหลังเขา และด่าว่าเขา " ข้อความนี้เพื่อปลดปล่อยนายเก่า "ฝากขอโทษถึง นายนภินทรฯ เจ้าของตลาดศรีเมืองด้วย ที่เขาทำอะไรแล้วไม่บอก" ข้อความนี้เพื่อปลดปล่อยนายใหม่ ซึ่งถือว่ามีบุญคุณต่อเขาเช่นกัน

นายเอ็มฯ ถูกสั่งให้ซัดทอดนายต่าย
-ตามรูปการ นายเอ็มฯ น่าจะซัดทอดไปนายสงัดฯ ที่ตายไปแล้วเสียดีกว่าจะได้จบเรื่อง
-แต่เรื่องไม่น่าง่ายอย่างที่คิด หากซัดไปที่นายสงัดฯ ผลจะไปเกิดขึ้นแก่จอมบงการตัวจริง แต่หากซัดทอดไปยังนายต่ายฯ ก็จะห่างไกลจากจอมบงการ และยังมีผลไปถึงนายของนายต่ายฯ ด้วย
-ทำไมนายเอ็มฯ ถึงต้องทำอย่างนั้น ก็เพราะนายเอ็มรู้ว่า ความปลอดภัยของแม่และครอบครัวตนเองอยู่ในมือของจอมบงการ คนนั้น ซึ่งมีอิทธิพลมาก
-นายเอ็มฯ คือเด็กของนายสงัด ซึ่งนายสงัดเป็นผู้ชักชวนเข้าสู่วงการ (ไม่ใช่เด็กของนายต่าย) คนที่มีบุญคุณที่แท้จริงของนายเอ็ม คือ นายสงัด

สรุปได้ว่า ทั้งหมดนี้ คือละคร...ที่ถูกสร้างให้พวกเราเห็น ฆาตกรผู้ลงมือสังหารตัวจริงยังลอยนวล แทบไม่มีหลักฐานใดๆ...เลยที่จะต่อยอดและสืบสาวไปถึงผู้บงการตัวจริง....ละครกำลังจะปิดฉากลง

สงสารแต่เพียง อดีต ส.ส.กอบกุลฯ ที่อาจจะต้องตายฟรี? เหมือนกับนักการเมืองคนอื่นๆ ที่ผ่านมา...แล้ววันเวลา ก็จะทำให้ทุกคนลืมเลือน

น่าสงสาร...ประเทศไทย.....

เขียนโดย ชาติชาย คเชนชล 24 มิ.ย.49

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โถ่ ไอต้นกับไอต้าน มันไม่ได้เล่าแบบนี้หนิ มันเล่ากลับกันอ่ะ คนใกล้ชิดแท้ๆเลย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ต้นต้านไหน ที่อยู่กับพวกฟ้า อ่ะเหรอ มันพวกเดียวกันไม่ใช่เหรอ มันก็ต้องรู้เรื่องเป็นธรรมดาแหละ เพราะพวกเดียวกัน แล้วมันมีอะไรที่นอกเหนือจาก นี้เหรอครับ สงสัย!!!!!!!