วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ใคร? ฆ่า ส.ส. กอบกุล

บทความนี้ เป็นเพียงบทวิเคราะห์ส่วนตัวของผู้เขียน ไม่มีเจตนาที่จะให้ร้ายใคร ผู้อ่านต้องใช้วิจารญาณในการคิดวิเคราะห์เอง
บทความนี้ ข้าพเจ้าเริ่มเขียน เมื่อตอนสาย ของวันที่ 1 มิ.ย.49 ซึ่งล่วงเข้าวันที่ 5 ของการเสียชีวิตของ อดีต ส.ส.กอบกุล นพอมรบดี

จากการที่ทีมสอบสวนของตำรวจทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันจับกลุ่มคนร้ายที่ลงมือสังหาร ส.ส.กอบกุลฯ ได้เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.49) นับเป็นผลงานที่เยี่ยมยอดและรวดเร็ว โดยกลุ่มร้ายส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในตลาดศรีเมือง ซึ่งเจ้าของคือ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เรื่องราวต่างๆ ของกลุ่มคนร้าย ข้าพเจ้าขออนุญาต สรุปพอสังเขป (ถึงเช้าวันนี้) เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ ดังนี้

ผู้ที่อยู่ในรถโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ที่ใช้สังหาร
1.นายอานนท์ พันรัตน์ (เอ็ม) เป็นผู้จัดการโต๊ะสนุกเกอร์ของสมาคมเกษตร ในตลาดศรีเมือง ทำหน้าที่คนขับ
2.นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ต่าย ศรีเมือง,ส.ท.ต่าย) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ตลาดกลางผักและผลไม้ศรีเมือง ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองราชบุรี (ส.ท.) ถูกล่าวหาว่า เป็นผู้จ้างวาน/ผู้จัดหามือปืน/ผู้ชี้เป้า และคืนนั้นนั่งไปกับคนขับรถ
3.นายจำรณหรือจำลอง อ่วมทอง กำนัน ต.หนองกระเจ็ด อ.บ้านลาด จ. เพชรบุรี ทำหน้าที่เป็น มือปืนสังหาร
4.นายศุภฤกษ์ อ่วมทอง บุตรชายนายจำรณฯ ทำหน้าที่เป็น มือปืนสังหาร
ผู้ที่ถูกกล่าวหาร่วมอยู่ในทีมสังหาร
5.นายสงัด พุ่มเพ็ง (สารวัตรเปี๊ยก) อดีตสารวัตรกำนัน ต. เกาะพลับพลา ทำงานเป็นผู้ดูแลอยู่ในตลาดศรีเมือง ถูกซัดทอดว่า เป็นผู้จ้างวาน/ผู้ชี้เป้า/ผู้จัดหามือปืน และเป็นคนแจ้งความเคลื่อนไหวของ นางกอบกุลฯ ในคืนวันนั้น แต่ปัจจุบัน นายสงัดฯ เสียชีวิตแล้ว เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.49) จากการกินยาฆ่าตัวตาย โดยสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านของ นายพงศ์พัฒน์ นาคหนู (เภา ศรีเมือง) ผู้จัดการฝ่ายการค้าปลีกตลาดศรีเมือง ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง นายสงัดฯ ได้เขียนจดหมายลาตายเอาไว้ สรุปสาระได้ว่า "การสังหาร นางกอบกุล ในครั้งนี้ เขาเป็นคนทำเองคนเดียว เนื่องจากแต่ก่อน เขาเคยช่วยเหลือนางกอบกุลฯ แต่นางกอบกุลกลับหักหลังเขา และด่าว่าเขา ฝากขอโทษถึง นายนภินทรฯ เจ้าของตลาดศรีเมืองด้วย ที่เขาทำอะไรแล้วไม่บอก"



จากเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้าได้เรียบเรียงมานี้ แลดูเป็นเรื่องที่ง่ายๆ ไม่มีความสลับซับซ้อนใดใด ใครๆ ก็ต้องคิดว่า เป็นฝีมือ ของนายนภินทร ศรีสรรพางค์ อย่างแน่นอน....

ข้าพเจ้านึกฉงนใจ จึงรีบค้นหาตำราพิชัยสงครามของซุนวู ขึ้นมาอ่าน ซึ่งมีอยู่ตอนหนึ่ง ซุนวูกล่าวว่า " ใกล้ให้แสดงไกล ไกลให้แสดงใกล้ " ฆาตกรคนนี้น่าจะเป็นนักวางแผนการฆาตกรรมอันยอดเยี่ยม คล้ายกับคนที่เคยมีประสบการณ์มาแล้ว หากเป็นนิยายก็จัดเป็นนิยายฆาตกรรมที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ซึ่งขณะนี้เหตุการณ์ต่างๆ กำลังดำเนินการไปตามบทของมัน...

-นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เจ้าของตลาดศรีเมืองโดนเต็มๆ ขึ้นขั้นเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลที่ได้สร้างสมมา และอาจรุกลามเสียไปถึงตลาดศรีเมืองที่อุตส่าห์สร้างกิจการมากว่า 20 ปีอีกด้วย อนาคตทางการเมืองดับวูบ....การถูกวางตัวขึ้นเป็นแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ภาคกลาง หมดสิ้นไปเรียบร้อย

ข้าพเจ้ากล่าวไว้ในตอนที่แล้ว ว่า ยิงกระสุนนัดเดียว น่าจะได้นกมากกว่าสองตัว

หลังจากที่ตำรวจจับทีมสังหารได้ เกิดคำถามผุดขึ้นในใจ ของข้าพเจ้าทันที ซึ่งข้าพเจ้ากำลังพยายามคิดหาคำตอบอยู่ เหตุการณ์ต่างๆ มันดูง่าย เหมาะเจาะและสอดคล้องกันไปหมด

คำถาม หาก นายนภินทรฯ ล้ม ! นางกอบกุลฯ ก็ล้ม! ใคร? จะได้รับประโยชน์? ทั้งธุรกิจตลาดกลางเพื่อการเกษตร และการเมือง
คำถาม หาก นายนภินทรฯ เป็นผู้บงการจริง ทำไม? ต้องใช้คนใกล้ตัวอย่างนั้น นายนภินทรฯ ไม่ใช่คนไก่อ่อนที่เพิ่งเข้าสู่วงการ

จากการอนุมานของข้าพเจ้าเอง ฆาตกรที่บงการสังหารนางกอบกุลฯ คนนี้ น่าจะมีคุณลักษณะ ดังนี้
1.ต้องเป็นคนรู้เรื่องดีเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงาน และวิธีการสืบสวนหาพยานหลักฐานของตำรวจ และรู้เรื่องกฏหมายเป็นอย่างดี
2.ต้องเป็นคนที่เคยคลุกคลีและมีความสัมพันธ์อยู่กับกลุ่มทีมสังหารที่ลงมือ
3.ต้องเป็นคนที่มีเงิน มีความทะเยอทะยาน ใฝ่สูง และมีอิทธิพลด้านมืด อยู่ใน จ.ราชบุรี มีศักยภาพพอที่จะสามารถสร้างตลาดกลางเพื่อการเกษตรของราชบุรีแห่งใหม่ได้ เพราะตลาดเพชรเมืองราช ของนางกอบกุลฯ ก็ไม่เกิด ตลาดศรีเมือง ของนภินทร ก็ทำท่าว่าจะล้มจากผลกระทบที่ได้รับจากเหตุการณ์ครั้งนี้
4.และสุดท้ายต้องเป็นคนที่มีความรู้สึกว่า นางกอบกุล นพอมรบดี เป็นก้างขวางคอ เป็นคนที่คอยขัดจังหวะ และขัดโอกาสในชีวิตของตนเองเสมอ จึงเกิดความรู้สึกเครียดแค้น ชิงชัง เกิดทิฐิว่า หากมีตน ต้องไม่มีกอบกุล เห็นได้จากการเลือกวิธีการสังหารนางกอบกุลฯ ในครั้งนี้ ซึ่งมีลักษณะของความเหี้ยมโหด ทารุณ สะใจ ฆ่าให้สมแค้น....ทั้งๆ ที่มีวิธีฆ่าที่ดูดีกว่านี้ ตั้งมากมาย



การอนุมานที่ข้าพเจ้าเขียนมานี้ เป็นเพียงการอนุมาน ตามทฤษฎีที่ได้ร่ำเรียนมา เท่านั้น มุ่งประสงค์ให้ผู้ที่อ่านได้คิดตามไปด้วยในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งการอนุมานของข้าพเจ้า อาจจะผิดพลาดโดยสิ้นเชิงก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องกราบขอโทษบรรดาครูบาอาจารย์ที่ได้อบรม สั่งสอนข้าพเจ้ามาไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย

" ใกล้ให้แสดงไกล ไกลให้แสดงใกล้ "

ขณะที่ เริ่มเขียนบทความต่อนี้ คือ เช้าวันที่ 4 มิ.ย.49 ล่วงเข้าวันที่ 8 หลังจากการเสียชีวิตของ อดีต ส.ส.กอบกุล นพอมรบดี ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกลุ่มคนร้ายมาทำแผนประกอบในที่เกิดเหตุ ณ บริเวณสี่แยกเขางู ตรงสถานที่ที่ ส.ส.กอบกุลฯ ถูกสังหาร มีผู้คนชาวราชบุรี มารอดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นเดินทางไปทำแผนต่อไปยังสถานที่ที่นายต่ายและนายเอ็มซ้อมยิงปืน ตลอดจนจุดเปลี่ยนถ่ายรถของฆาตกรที่ตลาดศรีเมือง

สถานการณ์จนถึงขณะนี้ พอสรุปเหตุการณ์สังหาร ส.ส.กอบกุลได้ ดังนี้
1.นายจำรณหรือจำลอง อ่วมทอง กำนัน ต.หนองกระเจ็ด อ.บ้านลาด จ. เพชรบุรี และ นายศุภฤกษ์ อ่วมทอง บุตรชายซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลั่นกระสุนสังหาร ได้รับการประกันตัวไปแล้ว เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุ มีสถานที่อยู่อ้างอิงโดยแน่ชัดว่าไม่ได้เป็นคนลงมือทำ
2.ตัวละครใหม่เกิดขึ้น คือ นายวิญญู รัตนวรรณ (เลิฟ) สารภาพว่าทำหน้าที่ขับรถซึ่งเป็นของตนเองในคืนนั้น ให้ นายอานนท์ พันรัตน์ (เอ็ม) และ นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ส.ท.ต่าย) ซึ่งนั่งอยู่กระบะท้าย เป็นผู้ลงมือลั่นกระสุนสังหาร
3.หลังจากสังหารแล้ว นายเลิฟ ขับรถพา นายเอ็มและนายต่าย ไปส่งช่วงต่อให้ นายวันชนะ ศุภชัยศิริเรือง (วัน) ซึ่งจอดรถรออยู่ที่ตลาดศรีเมือง แล้วขับต่อพานายเอ็มและนายต่าย นำปืน M16 ซึ่งเป็นอาวุธสังหารไปทิ้งในแม่น้ำแม่กลองที่บริเวณวัดใหม่ชำนาญ ต.เจ็ดเสมียน
4.นายชยสิทธิ์ ธีระวรวงศ์ (เก้า) ให้ปากคำว่า คืนนั้นเป็นผู้ขับรถไปส่ง นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ส.ท.ต่าย) ที่บ้านของ นายเอ็ม ที่หลุมดิน เพื่อเตรียมก่อเหตุ
5.ปัจจุบัน นายต่าย ยังให้การปฏิเสธ ส่วน นายเอ็ม กับ นายเลิฟ แหล่งข่าวแจ้งว่ารับสารภาพหมดแล้ว ส่วน นายวัน และ นายเก้า บอกว่า ตนไม่ทราบว่า นายเอ็ม กับ นายต่าย ไปทำอะไรกัน เหตุที่ไปส่ง และรอรับ ก็เพราะเป็นคนรู้จักสนิทกัน
6.ช่วงในการทำแผนฝึกซ้อมยิงปืน M16 นายเอ็ม บอกว่า ทำการซ้อมยิงถึง 3 ครั้ง ซึ่งนายต่ายเป็นคนสอนให้ และรู้ว่าจะต้องไปสังหาร อดีต ส.ส.กอบกุลฯ สาเหตุที่ต้องทำ ก็เพื่อทดแทนบุญคุณนายต่าย ที่เคยช่วยชีวิตแม่ของนายเอ็มเอาไว้

ดูท่าทางว่า คดีนี้ น่าจะจบแบบเรียบร้อยโรงเรียนจีน เพราะจับคนร้ายได้หมดแล้ว แต่คำถามที่ยังต้องหาคำตอบยังมีอยู่ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็คงกำลังหาคำตอบอยู่เช่นกัน...

ทำไม? นายสงัด พุ่มเพ็ง (สารวัตรเปี๊ยก) ต้องตาย (จะตายด้วยความสมัครใจ หรือ ถูกฆ่าปิดปากก็ตาม)
ทำไม? นายสงัดฯ ต้องเขียนจดหมายทิ้งไว้ก่อนตาย ว่าตนเองทำคนเดียว เนื่องเพราะแค้นเป็นการส่วนตัวกับ ส.ส.กอบกุลฯ ไม่เกี่ยวกับ นายนภินทร (จะเขียนเอง หรือ คนอื่นเขียนก็ตาม) ซึ่งแหล่งข่าวใกล้ชิดกับ ส.ส.กอบกุลฯ ที่เชื่อถือได้บอกว่า ส.ส.กอบกุลฯ ไม่เคยได้ยุ่งเกี่ยว ข้องแวะ หรือทำงาน ร่วมกับ นายสงัดฯ เลย
ทำไม? นายสงัดฯ ต้องไปตายที่ อ.สวนผึ้ง บ้านของ นายพงศ์พัฒน์ นาคหนู (เภา ศรีเมือง)
ทำไม? หลังจากสังหาร ส.ส.กอบกุลฯ แล้ว ทำไม? ต้องเปลี่ยนรถคันใหม่ ซึ่งรถคันใหม่นี้ดันไปจอดคอยอยู่ที่ตลาดศรีเมืองอีกด้วย หลังจากนั้น จึงค่อยเอาปืน M16 ที่ใช้สังหารไปโยนทิ้งแม่น้ำในภายหลัง กรณีนี้ หากนำปืน M16 ไปทิ้งตั้งแต่แรกก็คงไม่เสียเวลามากมายนัก เพราะสถานที่ทิ้งกับที่สังหารก็ไม่ไกลกันจนเกินไป ทำไม? ต้องวิ่งเข้าไปในตลาดศรีเมืองเพื่อเปลี่ยนรถอีกคัน(ซึ่งขณะนั้น หากมีผู้หวังดีที่เห็นเหตุการณ์ ขับรถตามไป อะไรจะเกิดขึ้น มันน่าจะเป็นการเสี่ยงเกินไปสำหรับมือปืน) ฆาตกรผู้วางแผนคิดอย่างไร
ทำไม? นายเลิฟ จึงไม่หลบหนีไปกบดานในที่ที่ปลอดภัยกว่านี้ กลับเดินลอยนวลอยู่ ในกรุงเทพฯ ใครเป็นคนกำหนดให้นายเลิฟทำอย่างนี้ หรือว่า นายเลิฟกำลังอยู่ในการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของใครคนหนึ่ง ซึ่งรอขั้นตอน จังหวะและโอกาสต่างๆ ให้เหมาะสม เพราะการจับตัวนายเลิฟได้ แผนการสังหารกอบกุล ก็คลี่คลาย นายเลิฟกำลังถูกหลอกอยู่ ใช่หรือไม่ เมื่อคดีลงตัว จึงนับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของตำรวจ ซึ่งหากให้คะแนนก็เต็ม 100 คะแนนเลยทีเดียว สามารถลดกระแสสังคมลงได้ ส่วนผู้บงการคงต้องใช้เวลาสอบสวนหาพยานหลักฐานกันต่อไป

เงื่อนปมเหล่านี้ ข้าพเจ้าก็ยังคิดไม่ออก จากผลประมวลข้อมูลจากแหล่งข่าวต่างๆ ที่เชื่อถือได้ และจากการที่ข้าพเจ้าได้พูดคุยกับชาวราชบุรีหลายสาขาอาชีพ ปรากฏว่าเกิดข่าวลือต่างๆ ในหมู่แวดวงชาวราชบุรี มากมายจำนวนหลายกระแส ซึ่งข้าพเจ้าได้รวบรวมมาเขียนให้ผู้อ่านได้ทราบ พอสังเขปได้ดังนี้
-ข่าวลือที่ 1 หลายคนเริ่มไม่เชื่อว่า นายนภินทรฯ เจ้าของตลาดศรีเมือง จะเป็นผู้บงการ เพราะดูรูปการแล้ว คนฉลาดอย่างนภินทรฯ ไม่น่าจะทำอะไรโง่ๆ อย่างนี้ ที่ใช้คนใกล้ตัว
-ข่าวลือที่ 2 อดีต ส.ส.กอบกุลฯ เป็นผู้ประสานงานพานายทุน มาซื้อที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี ซึ่งเจ้าของที่ดินต้องการที่จะขาย ทำให้เจ้าของซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจตลาดแห่งนั้นอยู่ (แต่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน) เกิดความไม่พอใจต่อการกระทำของ ส.ส.กอบกุลฯ อาจเป็นชนวนเหตุจูงใจให้สังหาร ส.ส.กอบกุล
-ข่าวลือที่ 3 ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยระดับสูงคนหนึ่ง เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากชนวนสาเหตุการเลือกตั้ง สว.ที่ผ่านมา และการกว้านซื้อที่ดิน ที่จะใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่
-ข่าวลือที่ 4 เป็นเรื่องข่าวลือทางไสยศาสตร์ว่า วิญญาณ ส.ส.กอบกุลฯ มาเข้าร่างทรงในวันที่ 2 ของการเสียชีวิตและบอกว่า " คนบงการเป็นผู้หญิงที่ชอบใส่เพชร ใส่พลอย" (เรื่องนี้ผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาณเอาเอง)
-ข่าวลือที่ 5 เคยมีการเจรจาเรื่องตลาดกลางเพื่อการเกษตร ระหว่าง อดีต ส.ส.กอบกุลฯ กับตัวแทนเจ้าของตลาดเดิม
-ข่าวลือที่ 6 เดิม นายพงศ์พัฒน์ นาคหนู หรือ เภา ศรีเมือง (ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่ นายสงัดฯ ไปกินยาตาย) เคยเป็นมือขวา ของเจ้าของตลาดศรีเมือง แต่ปัจจุบันโดน นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ หรือส.ท.ต่าย ขึ้นมาแย่งตำแหน่งแทน
-ข่าวลือที่ 7 นายสงัด พุ่มเพ็ง (สารวัตรเปี๊ยก) (กินยาตาย) นายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ (ส.ท.ต่าย) และ นายพงศ์พัฒน์ นาคหนู (เภา ศรีเมือง) มักใช้คำเรียกผู้ที่เขารับใช้อยู่ว่า "นาย" จึงอาจเกิดการเข้าใจผิดว่า "นายไฟเขียว" แต่ไม่ได้สื่อกันว่า นายคนไหน ใช่นายคนเดียวกันหรือไม่ โดยเฉพาะ นายสงัด พุ่มเพ็ง (สารวัตรเปี๊ยก) ที่กินยาตายเคยมีนาย (คนเก่า) มาก่อน
-ข่าวลือที่ 8 เคยมีคนที่เคยเป็นคู่แข่งขัน ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ราชบุรี เขต 1 แข่งกับ นางกอบกุลฯ เมื่อครั้งที่ นางกอบกุลฯ ยังสังกัดพรรคชาติพัฒนาอยู่ การเลือกตั้งในครั้งนั้น แม้คู่แข่งคนนี้ จะสังกัดพรรคไทยรักไทยในขณะนั้นก็ตาม (ซึ่งเป็นพรรคกระแสนิยม) ก็ยังสู้ นางกอบกุลฯ สังกัดพรรคชาติพัฒนาไม่ได้ การเลือกตั้งในครั้งนั้น มีเหตุการณ์กลั่นแกล้งใส่ร้ายป้ายสีกันมาก ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ถูกใบแดง นางกอบกุล นพอมรบดี สังกัดพรรคชาติพัฒนา ถูกใบเหลือง จนต้องเกิดการเลือกตั้งใหม่รอบสอง นางกอบกุล นพอมรบดี ก็ยังเป็นฝ่ายชนะเหมือนเดิม ก่อนที่จะหมดวาระ ส.ส. ของนางกอบกุลฯ ซึ่งจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ทั้งประเทศ คู่แข่งคนเดิมก็ประกาศตัวว่า ตนเองเป็นตัวแทนของพรรคไทยรักไทย ลงสมัคร ชิงตำแหน่ง ส.ส.ราชบุรี เขต 1 (ตอนนั้น ส.ส.กอบกุลฯ ยังไม่ได้ย้ายพรรค) พอ ส.ส.กอบกุลฯ ย้ายพรรค ก็ได้เป็นตัวแทนของ พรรคไทยรักไทย ลงสมัคร ส.ส. ราชบุรีเขต 1 แทนคู่แข่งคนนั้น (ซึ่งตอนนี้ ถือว่าอยู่พรรคเดียวกันแล้ว) และ นางกอบกุลฯ ก็ได้เป็น ส.ส.ราชบุรี เขต 1 สังกัดพรรคไทยรักไทย จนกระทั่งยุบสภา
-ข่าวลือที่ 9 การสังหาร ส.ส.กอบกุลฯ ในครั้งนี้ อาจเชื่อมโยงไปถึงการเสียชีวิต ของ ดร.ณรงค์ชัย สุริยะณรงค์ชัย อดีตนายกเทศบาลเมืองราชบุรี 2 สมัย ซึ่งถูกยิงกลางเมืองราชบุรีเมื่อปี พ.ศ.2538 ซึ่งสาเหตุในขณะนั้นเกี่ยวข้องกับตลาดศรีเมือง ซึ่งนายณรงค์ฯ เป็นผู้ก่อตั้ง ก่อนที่จะตกมาอยู่ในมือของกลุ่มผู้บริหารในปัจจุบัน สังเกตได้ว่า การแข่งขันสร้างตลาดขนาดใหญ่ ใน จ.ราชบุรี ค่อนข้างรุนแรงนับตั้งแต่นั้นมา เช่น ตลาดกำนันหลัก ตลาดไนท์พลาซ่า จนกระทั่งมาถึง ตลาดเพชรเมืองราช ของ ส.ส.กอบกุลฯ
-ข่าวลือที่ 10 น่าจะมีการลงขันกัน สังหาร อดีต ส.ส.กอบกุล นพอมรบดี เนื่องจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องล้วนสมประโยชน์กันทั้งหมด

(ข่าวลือเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลที่ข้าพเจ้า ได้รวบรวมมาจากเรื่องราวต่างๆ ที่ได้ยินมา ไม่มีเจตนาจะให้ร้ายผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งจะจริง เท็จหรือไม่อย่างไร ผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาณ ในการคิดเอาเอง)

อดีต ส.ส.กอบกุล นพอมรบดี กำลังเล่นกับไฟ โดยท่านจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม แต่ท่านคงไม่คิดว่า ไฟกองนี้จะใหญ่พอที่จะเผาตัวท่านให้เป็นจุล......

นี่คือ สิ่งที่พวกเราต้องหาคำตอบว่า ใคร? คือ ไฟกองใหญ่กองนั้น

ปมปริศนาที่พวกเราต้องค้นหาเหตุและผลมาตอบคำถามที่ยังค้างคาใจ ว่า "ทำไม" บวกกับ "กระแสข่าวลือ" เหล่านี้ ข้าพเจ้าคิดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำหน้าที่พนักงานสืบสวน คงทราบทั้งหมดแล้ว ล้วนต้องเก็บเอามาประมวล และอนุมานความเป็นไปได้โดยไม่ทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เพราะ อาจจะสามารถใช้เชื่อมโยงไปถึงฆาตกรที่เป็นตัวบงการได้

ลองมาย้อนนึกถึงเหตุผลที่คนต้องฆ่ากัน ที่ข้าพเจ้าเขียนไว้ตั้งแต่ตอนแรก ดู อาจจะได้แนวความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นก็ได้
-เหตุผลที่ 1 ฆ่าเพราะเกิดการดูหมิ่นเกียรติและศักดิ์ศรีอย่างร้ายแรง จนยอมไม่ได้
-เหตุผลที่ 2 ฆ่าเพื่อปกปิดความชั่วร้ายของตนเอง
-เหตุผลที่ 3 ฆ่าเพราะขัดผลประโยชน์ของตนเอง ซึ่งผลประโยชน์นั้นมีค่าตอบแทนที่สูงมาก คุ้มค่ากับการเสี่ยง
-เหตุผลที่ 4 ฆ่าเพื่อรักษาและดำรงไว้ซึ่งอำนาจ บารมีและอิทธิพลของตน

คนฉลาด ไม่มีใครเชื่อว่าจะทำอะไรโง่ๆ ได้
คนโง่ ก็ไม่มีใครเชื่อว่าจะทำอะไรฉลาดๆ ได้เช่นกัน
แต่คนที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่เคยเป็นทั้งคนฉลาดและคนโง่มาก่อน

เขียนโดย ชาติชาย คเชนชล 4 มิ.ย.49

12 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จะมีใคร ขนาดคนที่เคยใกล้ชิด ที่เคยเป็นน้องของ สท ต่าย ยังบอกเล่าให้คนอื่นฟังเลย ไอคคนที่ชื่อ ต้น ฟ้า อะไรนน่ะ โถ่ แค่นี้ยังสรุปไม่จบอีก ถ้าอยากรู้ก็ไปถาม ไอคนที่ชื่อ ต้น ชื่อ ฟ้า เอา ดิ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ต้น กับ ต้าน ที่เป็นพี่น้องกันน่ะเหรอ อืม สองคนนนี่น่าจะรู้เห็นน่ะเพราะ เคยได้ยินเหมือนเห็นว่าสองพี่น้องคู่นี้ ไปเล่าให้ใครต่อใคร ไปทั่วเลยว่าสท ต่ายเป็นคนลงมือเอง.......................

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จะมีใคร ไอต้นมันก็เล่าเองว่า ไอสท ต่ายลงมือเอง ไอ้ต้นอ่ะ ฟ้าก็มีส่วนเกี่ยว

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อ้าวไอ้เหี้ย ปากหมา แล้ว สัส ไอห่านี่เลี้ยงไม่เชื่องๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สัส ต้น ปากดีน่ะมึง พวกมึงทุกตัวเลย หน้่าตัวเมีย สัส เก่งแต่พวก หมาลอบกัด ดูด ควย อ๊อฟ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ใครว่ะ ดูดควย อ๊อฟ
ซ้อใหญ่เหรอ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อ๊อฟไหนว่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไอ้เหี้ยต้น กับต้านที่เป็นสองพี่น้อง ที่เคยอยู่กับ ต่ายแกอ่ะน่ะ ใช่เปล่า ไอห่าลากนี่เลี้ยงไม่เชื่อง อีกแล้วแน่

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

KVY TON NA HE SANON SAVANGRAROM

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ใครว่าไอต้นวะ ไอสัส มันก็ดีนะ อยู่ของมันดี ๆ พวกมึงนะใส่ร้ายมันทำเหี้ยไร

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

กูไม่เชื่อว่าไอต้นจะพูดอะ ถ้ามันกล้าพูดมันก็โดนเก็บไปแล้วดิถ้ามันรู้เรื่องด้วย ข่าวลือชัด ๆ คิดดี ๆ แบบเป็นกลาง ถ้ามันรู้เห็นด้วยเขาจะปล่อยให้มันลอยนวลปล่อยข่าวได้เหรอ โง่จริง ๆ พวกมึงเนี่ย ที่สำคัญไอต้นมันรักต่ายจะต่ายห่า มันจะหักหลังพี่มันทำเหี้ยไร พวกไม่รู้จริงอย่าพูด

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไอเหี้ยต้นไหนวะ ในศรีเมืองมีตั้งหลายต้น มั่วอ้างชื่อไอต้นน้องต่ายปะ ไม่น่าจะใช่ไอต้นน้องต่ายนะที่พูด กูก็คนในตลาดใช่ไอต้นมันรักต่ายจะตายมันจะพูดทำเหี้ยอะไร ไอฟ้าก็เหมือนกันพวกนี้มันอยู่กันเหมือนพี่น้องมันไ่ม่ทำเหี้ย ๆ แบบนั้นหรอก